ทำเนียบรัฐบาล 5 พ.ค.-นายกฯ ระบุตัวเลขติดเชื้อลดลงแต่ยังวางใจไม่ได้ ตำหนิรุมแย่งซื้อเหล้า ย้ำถ้าไม่ปฏิบัติตามมาตรการ สธ. ต้องปิดร้าน ไม่ให้ขายต่อ แนะผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าเตรียมสถานที่พักคอย มาตรการคัดกรองให้พร้อม ขอบคุณ 20 เจ้าสัวร่วมมือรัฐบาลฟื้นเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ เกี่ยวกับการประเมินผลการผ่อนปรนตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า มองเห็นว่ายังมีหลายอย่างต้องปรับปรุง ทั้งความร่วมมือของภาคธุรกิจ ภาคเอกชนต่าง ๆ และประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เหมาะสมดำเนินการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพราะยังวางใจเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมของการเปิดร้าน เห็นว่าผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และเล็กปรับมาตรการเรื่องเว้นระยะห่างเป็นอย่างดี
“ขอตำหนิการรุมกันแย่งซื้อเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ซึ่งผมสั่งการแล้วว่าต้องมีมาตรการชัดเจนเรื่องการซื้อเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ด้วยการจำกัดปริมาณการซื้อ เปิดปิดตามเวลาที่กำหนด ไม่ให้มีภาพการรุมแย่งกันซื้ออีก เพราะจะถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ พร้อมขอให้ภาคเอกชน ร้านค้าต่าง ๆ ที่ขายสุรา ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ออกไป ไม่เช่นนั้นจะถูกปิด ไม่ให้ขายอีกต่อไป ขณะนี้กำลังเตรียมการระยะที่สอง หากสามารถผ่านระยะที่หนึ่งไปได้ใน 14 วัน สิ่งสำคัญที่สุดคือกรณีที่ประชาชนจำนวนมากจะเข้าสถานประกอบการขนาดใหญ่หรือศูนย์การค้าที่จะต้องจำกัดปริมาณคนที่จะเข้าห้าง ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งชิงกันอีก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกสถานประกอบการขนาดใหญ่หรือศูนย์การค้าจะต้องมีเต้นท์หรือพื้นที่พักคอยอยู่ด้านนอก ต้องมีมาตรฐานการคัดกรอง การวัดอุณหภูมิ การใช้เจลแอลกฮอล์ ซึ่งเวลานี้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) กำลังพิจารณาว่าจะเปิดอะไรต่อไป สถานประกอบการขนาดใหญ่อาจจะมีความพร้อมมากกว่า เพราะมีเครื่องมือและทุนทรัพย์มากกว่า อะไรที่ต้องทำขอให้ทำให้ได้จึงจะเปิดได้ ขอให้มีมาตรฐานรัดกุม
ส่วนที่ผู้ติดเชื้อขณะนี้ลดเหลือมาเป็นตัวเลขหลักเดียวแล้ว จะทำให้ประชาชนชะล่าใจจนการ์ดตกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอถามกลับสื่อว่าจะสร้างความเข้าใจกับประชาชนได้หรือไม่ เพราะตนเพียงคนเดียวตัดสินอะไรไม่ได้ ต้องประชาชนด้วย ดังนั้น เป็นหน้าที่สื่อ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และโซเชียลที่จะต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าการ์ดตกไม่ได้เลย ห้ามการ์ดตกโดยเด็ดขาด ส่วนที่มีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าจำนวนมากจนแออัด ได้สั่งให้มีมาตรการแก้ไขเรื่องปัญหาขัดข้องทางเทคนิค จนทำให้คนต้องมารอจำนวนมากแล้ว ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางเทคนิค ไม่สามารถกำหนดอะไรได้ล่วงหน้า แต่ขอให้มีแผนงานการแก้ไขเรื่องเหล่านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินสายพบผู้ประกอบการภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ผ่านมา ว่า ใช้เวลาวันหยุดราชการไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตามด่านต่าง ๆและตามท้องถิ่น ซึ่งต้องขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนที่ทำงานเช่นเดียวกับตน สิ่งที่ดำเนินการ นอกจากจะขอความร่วมมือบรรดาผู้ประกอบการขนาดใหญ่ 20 รายแล้วยังมีผู้ประกอบการระดับรองลงมาอีกหลายคน ซึ่งมีทรัพย์สินจำนวนมากอยู่แล้ว
“ผมจะขอให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ซึ่งผู้ประกอบการต่าง ๆ ตอบกลับมาครบทั้งหมดแล้วว่ามีแผนการดูแลลูกจ้างอย่างไร และมีอะไรที่รัฐจะต้องดูแลในส่วนของกระทรวงแรงงาน แต่ที่สำคัญคือผู้ประกอบการเหล่านั้นจะร่วมฟื้นฟูกับรัฐบาล โดยช่วยกันดูแลประชาชน เกษตรกรและกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัดในแผนการฟื้นฟู เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากที่มีมาตรการเยียวยาไปแล้วจากหลายกระทรวง โดยใช้เงินในพ.ร.ก.เงินกู้จำนวนหนึ่ง ตนต้องการดูว่าที่ครม.อนุมัติไปแล้วมีปัญหาอะไรบ้าง ทั้งการเข้าถึงซอร์ฟโลน การดูแลเยียวยาให้สอดคล้องกับเวลาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าควรขยายอะไรอย่างไร เพราะต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้า ตนได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
“ขอชื่นชมหลายสมาคมที่ดูแลแรงงานของตนเองดีที่สุด มีอะไรที่รัฐบาลจะดูแลอะไรได้บ้าง ก็ได้หารือกันในครม. ซึ่งให้คณะกรรมการที่ดูแลการพิจารณาเงินกู้ได้เข้าไปดูแลในส่วนนี้ด้วย รัฐบาลคาดการณ์ว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจะมีผลกระทบไปนานพอสมควร ไม่ใช่แค่ 3 เดือน อาจถึง 6-9 เดือน ต้องมีมาตรการรองรับในโอกาสต่อไปด้วย ขณะเดียวกันเน้นย้ำคำว่า New normal ความปกติแบบใหม่ที่อาจจะชินกันแล้ว คือการให้ความสำคัญกับสุขภาพ โดยที่วิถีชีวิตทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต้องวางแผนในอนาคตไปด้วย ผมใช้เวลาวันหยุดราชการพบปะและรับฟังปัญหาโดยตรง เพื่อนำมาขับเคลื่อนใน ครม. ยอมรับว่าต้องขอเวลา เพราะหลายอย่างต้องใช้งบประมาณและข้อกฎหมาย ต้องขอเวลาในการแก้ปัญหา ผมจะเดินหน้าพบปะเรื่อย ๆ” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย