นายกฯ ย้ำไม่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ 20 มหาเศรษฐี

ทำเนียบรัฐบาล 21 เม.ย.-นายกฯ ยันไม่ได้ขอเงิน ไม่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน 20 มหาเศรษฐี แค่ส่งจดหมายเปิดผนึกขอทราบมาตรการดูแลคนในองค์กร อังคารหน้าเตรียมพิจารณา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่เคยบอกผ่อนปรน 1 พ.ค.


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ได้หารือมาตรการรองรับสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องหลัก ส่วนเรื่องอื่นคืองานในกรอบความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง โดยได้เน้นย้ำทุกกระทรวงให้ขับเคลื่อนทุกมิติของทุกกระทรวง ทั้งงานในหน้าที่และงานที่ศูนย์โควิดได้มีมติดำเนินการไปแล้ว ขอให้ทุกกระทรวงขับเคลื่อนต่อไป

“ขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ทั้ง 3 ฉบับเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ 1. พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จำนวนไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วน คือ การแก้ปัญหาเรื่องการสาธารณสุข การเยียวยา และการฟื้นฟู โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ จัดตั้งคณะกรรมการคัดกรองซึ่งประกอบด้วยส่วนราชการและผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว และหารือร่วมกันแล้วว่าจะมีระเบียบปฏิบัติในการใช้เงินดังกล่าวอย่างไร โดยให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รอบคอบและจำเป็น โดยวันนี้ ( 21 เม.ย.) ครม.เห็นชอบระเบียบต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้กระทรวงนำแผนงานต่าง ๆ นำเสนอเข้าครม.ให้ครบถ้วนให้เร็วที่สุดและเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งมาตรการสาธารณสุขและเยียวยาต่าง ๆ ยืนยันว่าผมรับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างถูกต้องและเหมาะสม 2. พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับกระทรวงการคลังร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ ในจำนวนอีก 4 แสนล้านบาท และ 3. พ.ร.ก.ให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจ โดยธปท.มีอำนาจให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงิน วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและธปท.ดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน รวมทั้งจากผู้ประสบการณ์ความรู้ประกอบการทำงานด้วย

“สถานการณ์ช่วงวิกฤติโควิด-19 ดีขึ้น สถิติผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับ แต่ยังต้องดูต่อเพื่อดำเนินการในระยะต่อไป แต่ขออย่าเพิ่งผลีผลาม มีหลายคนเรียกร้องให้ปลดมาตรการ แต่ผมองว่าต้องระวังอย่างถึงที่สุดและฟังข้อมูลจากการแพทย์ ต้องดูว่ามาตรการอื่น ๆ รองรับเพียงพอหรือไม่ ผมไม่อยากให้การตัดสินใจเป็นเพราะแรงกดดัน แต่ขอให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎอยู่ เพราะหากปลดอะไรเร็วเกินไป เกรงว่าจะแพร่ระบาดมากขึ้น หากสิ่งที่ทำมาล้มเหลวทั้งหมดจะทำอย่างไร เป็นสิ่งที่ผมต้องดูแลเป็นพิเศษ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง 20 มหาเศรษฐีในไทยว่า ที่ส่งจดหมายเปิดผนึกเพื่อรับทราบว่าดำเนินการช่วยเหลือบุคลากรในแต่ละองค์กรอย่างไรบ้าง เพื่อจะช่วยเสริมในมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ออกไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่ได้จะกู้เงินหรือยืมเงินของเขา รัฐบาลมีเงินอยู่แล้ว 


“ขอขอบคุณทั้ง 20 ท่าน การส่งจดหมายโดยเปิดเผยเพราะในห่วงโซ่ของท่านมีคนจำนวนมาก รวมถึงประชาชนด้วย ทราบว่าทุกท่านดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่อยากทราบว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อเสริมมาตรการของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อให้สอดประสานกันในการทำงาน ไม่ได้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ขอขอบคุณเป็นการล่วงหน้า ไม่ใช่การแข่งขัน บังคับหรือแลกเปลี่ยนใด ๆทั้งสิ้น ไม่ต้องการตรงนั้น แต่ต้องการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งนอกจาก 20 ท่านนี้แล้ว ยินดีรับฟังทุกภาคส่วน แต่คงไม่ได้ไปพบทั้ง 20 ท่านด้วยตนเอง เห็นมีรายชื่อประกาศมาแล้ว ในเอกสารเปิดผนึก มีรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าไม่ขอรับเงินบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น ขออย่าไปบิดเบือนก็แล้วกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องการลดค่าไฟฟ้า ได้รับฟังทุกภาคส่วน ทั้ง กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการกำกับดูแลพลังงาน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง วันนี้จึงมีมาตรการเสนอลดค่าไฟให้กับประชาชนโดยทั่วไป ขอให้ทุกคนเห็นใจ เพราะเป็นงบประมาณที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องใช้ในการบริหารต่อไปในอนาคต รัฐบาลพยายามดูแลอย่างเต็มที่ ดังนั้น การพูดจาบิดเบือน ให้ร้ายกัน ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน และทำให้การทำงานยากและล่าช้าขึ้น

ส่วนการประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอีกครั้งในวันอังคารหน้าว่าจะต้องดำเนินการต่อไปหรือไม่อย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือและสถิติต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัด ส่วนการผ่อนปรนมาตรการ ได้ขอให้ดูแลการใช้ดุลยพินิจการขนส่งสินค้าของภาคประชาชน เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาว่าไม่สามารถดำเนินการได้ จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลเรื่องนี้ ซึ่งจริง ๆ มีข้อผ่อนปรนอยู่แล้ว แต่อาจไม่ทั่วถึงและไม่เข้าใจกัน จึงขอให้หน่วยงานพื้นที่พิจารณาด้วย

“การละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังมีอยู่ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาล ตัวเลขต่าง ๆ ที่ลดลงเกิดจากความร่วมมือของทุกคน ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว หากร่วมมือกันตัวเลขจะลดลงได้มาก และการผ่อนปรนในอนาคตจะมากขึ้น ยืนยันว่า ไม่เคยประกาศจะเริ่มผ่อนปรนวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพราะดูตามสถิติด้วยรอบคอบ การจะผ่อนปรนใด ๆ ผู้ประกอบการต้องเสนอมาตรการเข้ามาให้รับทราบว่าจะทำอะไรได้บ้าง เช่น การเตรียมการสถานที่ เจ้าหน้าที่ต้องปลอดภัย มีระยะห่าง ระบุจำนวนคน เป็นต้น ต้องทยอยเปิดได้บางส่วนในระยะต่อไป แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดได้เมื่อไหร่ ขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมไว้ และเสนอมาให้ทราบในส่วนที่ต้องการจะเปิด แต่บางอย่างเมื่อพิจารณาแล้วไม่เหมาะสมจะยังไม่เปิด ทราบดีว่าทุกคนเดือดร้อน แต่ที่เดือดร้อนมากกว่าคือสุขภาพ หากล้มตายมากกว่าจะทำอย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีวัตถุประสงค์ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนผ่านช่วงวิกฤติไปให้ได้ สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในช่วงนี้ ยอมรับว่าเห็นใจและมีมาตรการที่แทบจะครอบคลุมอยู่แล้ว ไม่อยากให้มองในแง่เงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว อย่ามองแค่ว่าแค่นี้มันน้อยไปหรือเปล่า ขอให้ดูว่าเรามีเงินเท่าใด กู้มาเท่าใด ใช้อย่างไร ภาระในวันหน้าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องคิดอย่างรอบคอบ และขอขบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือดูแล ขอให้ดูแลห้วงโซ่องค์กรของตนเอง และดูแลผู้บริโภคอย่างดีที่สุดด้วย.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

ตชด.ลาดตระเวนเข้ม 24 ชม. แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 29 มิ.ย. – ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. หลังมีรายงานกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช-สร้างสิ่งปลูกสร้าง ละเมิดข้อตกลง MOU 43 วันนี้ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง ซึ่งติดกับ จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ ซึ่งแนวคลองลึกและจะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า บริเวณ อ.โคกสูง มีรายงานว่ากลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง […]

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่หนุนรัฐประหาร

กทม. 29 มิ.ย.- คปท. แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหาร และไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่ 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ-พรรคร่วม เวลา 14.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมแถลงจุดยืน ภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท. ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว […]