ตาก 1 พ.ค.-ผู้ต้องขังต่างด้าวพ้นโทษจากเรือนจำ 11 คน แอบเปิดประตูรถคุมขังของขบวนรถตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ก่อนวิ่งหลบหนีที่หน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1
ผู้ต้องกักขังสัญชาติเมียนมา เปิดประตูรถคุมขังผู้ต้องหาก่อนพากันวิ่งหนีกระโดดลงจากรถ และวิ่งแยกย้ายกันไป โดยเหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากผู้ต้องกักขังสัญชาติเมียนมาจำนวน 11 คน จากกว่า 50 คน ที่พ้นโทษในคดีต่างๆจากเรือนจำ ได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ หลังทั้งหมดพ้นโทษกักขัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ได้นำรถยนต์ไปรับตัวผู้ต้องกักขังจากเรือนจำขึ้นรถยนต์คุมขังจำนวนสามคัน ขับออกจากเรือนจำ เพื่อนำตัวจะไปส่งคนต่างด้าวทั้งหมดไปส่งผลักดันที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา แต่ปรากฏว่าทางการเมียนมาไม่สามารถรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษทั้งหมดได้เนื่องจากด่านพรมแดนทั้งสองประเทศปิดและทางการเมียนมา ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงจนไม่สามารถส่งตัวผู้ต้องขังที่พ้นโทษทั้งหมดกลับประเทศเมียนมาได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก จึงต้องตัดสินใจนำผู้ต้องขังที่พ้นโทษทั้งหมดนำไปกักตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากเพื่อรอการส่งตัวอีกครั้ง โดยนำตัวทั้งหมดขึ้นรถยนต์คุมตัวผู้ต้องหาจำนวนสามคัน ขับออกจากด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 มุ่งหน้ามาที่คุมขังชั่วคราวด่านตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น เมื่อระหว่างที่ขบวนรถตำรวจทั้งสามคัน ได้เคลื่อนผ่านมาถึงหน้าสำนักงานด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ติดกับด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ผู้ต้องหาหนึ่งคนได้อาศัยช่วงจังหวะที่ขบวนรถชะลอเพื่อจะเลี้ยวเข้าประตูด่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก แอบทำการบางอย่างและสามารถเปิดประตูรถคุมขังผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย และเมื่อประตูรถเปิดออกได้มีผู้ต้องขังจำนวน 11 ราย พากันวิ่งหนีกระโดดลงจากรถและวิ่งแยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทิศละทางซึ่งบางคนวิ่งลงลำห้วยและบางคนวิ่งไปในป่ารกทึบและวิ่งเข้าไปในชุมชนจนชาวบ้านตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพวินาทีแหกรถคุมขังได้อย่างชัดเจน ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถออกติดตามผู้ที่แหกรถคุมขังได้เพียงบางส่วนซึ่งยังไม่สามารถยืนยันว่าสามารถติดตามจับกุมมาได้จำนวนเท่าใด
ล่าสุดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก อยู่ระหว่างเร่งติดตามออกค้นหาตัวผู้ต้องขังทั้งหมด ซึ่งการออกติดตามค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ส่วนสาเหตุแรงจูงใจที่อาจจะทำให้ผู้ต้องโทษกักขังที่พ้นโทษแล้วคิดทำการแหกรถคุมขังหลบหนี อาจจะมาจากความเครียดและอยากกลับบ้านหลังพ้นโทษ แต่ไม่สามารถกลับประเทศบ้านเกิดได้เนื่องจากด่านพรมแดนทั้งสองประเทศปิดจากปัญหาโรคโควิด-19 ระบาด.-สำนักข่าวไทย