กรุงเทพฯ1 พ.ค.- บอร์ด กสศ. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเด็ก เยาวชน แรงงานด้อยโอกาส กว่า 7.5 แสนคน พร้อมเพิ่มเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นค่าอาหาร ค่าครองชีพ ให้ นร.ยากจนพิเศษ 300 ล้านบาท
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร กสศ. เปิดเผยว่า บอร์ด กสศ. ได้อนุมัติงบประมาณ 2,049 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มเป้าหมายในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยแบ่งเป็นการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนทุนเสมอภาค จำนวน 1,449 ล้านบาท และพัฒนาโครงการให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและกว้างขวางขึ้น จำนวน 550 ล้านบาท มาตรการเหล่านี้จะช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายราว 7.5 แสนคน แบ่งเป็น เด็กนักเรียนในระบบ 7 แสนคน เด็กนอกระบบ 35,000 คน แรงงานด้อยโอกาส 10,000 คน เน้นช่วยเหลือทั้งระยะยาว และระยะสั้นที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเป็นวิกฤติ โดยเฉพาะผลกระทบจากการปิดเทอมที่ยาวนาน ทำให้เด็กยากจนประสบปัญหาโภชนาการขาดแคลนอาหาร เรื่องนี้ กสศ.ได้ระดมความคิดจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้บริหาร สพฐ. ผู้บริหารสถานศึกษา และการสำรวจทางโทรศัพท์ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ผู้ปกครอง นักเรียน ครู ผู้อำนวยการ จำนวน 12,460 คน เกี่ยวกับผลกระทบและแนวทางการช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษ พบว่า 3 เรื่องสำคัญที่ต้องเร่งช่วยเหลือคือ อาหาร ค่าครองชีพและค่าของใช้จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าอาหารและค่าครองชีพให้กับนักเรียนยากจนพิเศษ ระดับชั้นป.1–6 จำนวน 500,000 คน ในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ตชด ทั่วประเทศและอปท.จำนวน 300 ล้านบาท โดยจัดสรรให้คนละ 600 บาท ตั้งแต่วันที่18 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ประธานคณะกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า เมื่อเจอวิกฤติโควิด-19 ซ้ำเติมความยากจน อาจทำให้พวกเค้ามีโอกาสหลุดออกนอกระบบการศึกษามากขึ้น โดยข้อมูลจากระบบสารสนเทศพบว่า นักเรียนกลุ่มนี้มีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยระหว่าง 279 – 1,254 บาทต่อคนต่อเดือนเท่านั้น เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวนักเรียนยากจนพิเศษ ในส่วนของค่าครองชีพ ค่าเดินทางมาเรียน เป็นหลักประกันเพื่อป้องกันเด็กหลุดออกนอกระบบ บอร์ดกสศ.จึงอนุมัติการจ่ายเงินทุนเสมอภาคให้เร็วยิ่งขึ้น และปรับสัดส่วนการจ่ายเงินในช่วงเปิดเทอม เป็นร้อยละ75 หรือ 2,000 บาท ในเทอม1จากเดิมร้อยละ 50 พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายการช่วยเหลือในระดับชั้นอนุบาลของสังกัด สพฐ.และอปท. ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 708,767 คน
ดร.ประสาร กล่าวว่า เด็กนอกระบบการศึกษา อย่างน้อย 35,000 คน ใน 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่กสศ.ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ให้ได้รับการดูแลทันทีในช่วงนี้ โดย กสศ.จะทำงานร่วมกับ เครือข่ายองค์กรภาคเอกชนเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ ซึ่งเมื่อช่วยเหลือเฉพาะหน้าแล้วก็จะสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นหรือการพัฒนาทักษะอาชีพตามศักยภาพต่อไป
บอร์ดกสศ.ยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือ แรงงานด้อยโอกาสที่ถูกเลิกจ้างกระทันหัน กลุ่มคนจนเมือง พ่อแม่นักเรียนยากจนพิเศษ และแรงงานตกงานที่กลับสู่บ้านเกิด โดย กสศ.จะทำงานร่วมกับหน่วยพัฒนาทักษะอาชีพ 80 ตำบลทั่วประเทศเพื่อจัดทำระบบตัวแบบการเรียนรู้ของชุมชนที่เข้มแข็ง และมีเครื่องมือการแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทำให้คนเหล่านี้มีโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมที่สูงขึ้น โดยจะต้องเป็นหลักสูตรพัฒนาทักษะอาชีพที่เรียนรู้และสามารถปรับใช้ได้เร็ว เบื้องต้นจะสามารถช่วยเหลือแรงงานด้อยโอกาสได้เบื้องต้น 10,000 คนที่สามารถขยายผลในชุมชนของตนเองได้
และด้วยความพร้อมของฐานข้อมูลกลุ่มเป้าหมายจากระบบสารสนเทศ กสศ. จึงขอเชิญชวนประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความช่วยเหลือในวิกฤติครั้งนี้ และสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า ได้ที่ https://donate.eef.or.th/main-donate หรือธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค เลขที่บัญชี 1720300216 สอบถามรายละเอียดได้ที่ กสศ. หมายเลข 02- 079-5475” .- สำนักข่าวไทย