BIG STORY : เปิดรายละเอียดมติผ่อนปรน 6 กิจการเปิดบริการได้

กทม. 30 เม.ย. – หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง ศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงมีมติผ่อนปรนให้ 6 กลุ่มกิจการกลับมาเปิดได้ตามปกติ รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน


ถือเป็นข่าวดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยนอกห้างฯ เพราะตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป จะสามารถกลับมาขายของกันได้แล้ว ศบค.กำหนด 6 กลุ่มกิจกรรมและกิจการที่ให้กลับมาให้บริการได้ ประกอบด้วย 


ตลาดที่จำหน่ายสินค้าทุกชนิด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย เสื้อผ้า อาหาร เปิดให้กลับมาขายได้ทั้งหมด แต่ต้องทำความสะอาดตามเวลาที่กำหนด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและลูกค้าโดยเฉพาะถนนคนเดิน ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร 


ร้านจำหน่ายอาหารทั่วไป ไม่ใช่ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน รถเข็น หาบเร่ ทั้งนี้ ร้านอาหารต้องเป็นร้านที่ขนาดใหญ่ไม่เกิน 2 คูหา ยังไม่อนุญาตร้านขนาดใหญ่ งดเล่นดนตรีแสดงสด เน้นย้ำการจัดที่นั่งต้องเว้นระยะห่าง กรณีเป็นร้านอาหารห้องแอร์ ต้องมีเครื่องระบายอากาศ ส่วนร้านอาหารจำพวกชาบู/สุกี้ ต้องนั่ง 1 คนต่อ 1 หม้อ ห้ามรับประทานเป็นกลุ่ม 

กิจการค้าปลีก-ค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รถเร่ รถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม จำพวกร้านโทรศัพท์มือถือ เปิดได้แล้ว

ส่วนกีฬา และสันทนาการที่ทำได้ คือ กิจกรรมในสวนสาธารณะ อย่างการเดิน วิ่ง รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย เช่น เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม ห้ามกีฬาประเภททีมและประเภทที่มีการแข่งขัน ห้ามจับกลุ่มนั่งคุย 

ร้านตัดผมและร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะการตัดผม สระผม และไดร์ผมเท่านั้น เน้นใช้ระบบจองคิว จำกัดเวลาการใช้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง 

และกิจการสุดท้ายที่ให้เปิดได้ คือ ร้านตัดขนสัตว์ และร้านรับเลี้ยง รับฝากสัตว์

การผ่อนปรนครั้งนี้ ศบค.จะติดตามประเมินผลทุก 14 วัน แบ่งเป็น 4 ระยะ รวม 2 เดือน หากตัวเลขติดเชื้อคงที่ รวม 14 วัน ไม่เกิน 20-30 คน สะท้อนว่าทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก็จะผ่อนคลายให้เพิ่มเติมในระยะที่ 2 และ 3 ด้วยการเปิดกิจการระบบปิดต่อไป  

ทุกกิจกรรมที่รัฐผ่อนปรนให้ ทุกอย่างดำเนินภายใต้เงื่อนไข ทุกฝ่ายต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ควบคู่กับมาตรฐานการป้องกัน ทั้งทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค ล้างมือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง 1 เมตร และมีคำเตือนว่าหากผ่อนปรนแล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 2-3 หลัก ต้องถอยหลังมาทบทวนมาตรการใหม่ทั้งหมด. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ