ผ่อนคลายมาตรการ

คณะนักวิจัยจีนระบุว่า การให้คนกลับมาเดินทางตามปกติในพื้นที่ที่ควบคุมยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์อย่างจีน อาจจะทำให้มีคนเสียชีวิตปีละ 2 ล้านคน สิ่งสำคัญที่จะควบคุมการระบาดได้คือพัฒนาวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น

เกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า จะยกเลิกคำสั่งจำกัดเวลาเปิดบริการของร้านอาหารและคาเฟ่ และจะนำระบบหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด หรือพาสปอร์ตวัคซีน มาใช้ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง เช่น สถานที่ออกกำลังกาย ซาวน่า และบาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด

ทางการกรุงโตเกียวประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในร้านอาหาร หลังจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่และผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงอย่างต่อเนื่อง

ซิดนีย์ 18 ต.ค. – นครซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย อนุญาตให้เด็กนักเรียนกลับไปเรียนในโรงเรียนได้อีกครั้งตั้งแต่วันนี้ หลังต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์จากบ้านเป็นเวลาหลายเดือน อีกทั้งยังผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ มากขึ้น เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ประกาศวันนี้ว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในสำนักงาน และจะอนุญาตให้ผู้คนรวมตัวกันในบ้านหรือนอกบ้านได้มากขึ้น หลังจากที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 80 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ร้านค้า ผับ และโรงออกกำลังกาย ได้รับอนุญาตให้รับจำนวนลูกค้าที่ฉีดวัคซีนมากขึ้น ส่วนไนต์คลับสามารถเปิดร้านให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้ และประชาชนสามารถจัดงานแต่งงานได้โดยไม่จำกัดจำนวนแขก อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายมาตรการทั้งหมดนี้ยังคงต้องเป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 265 คน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์และลดลงจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เคยมีสูงถึง 1,599 คนในเดือนกันยายน ขณะที่รัฐวิกตอเรียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,903 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 1,838 คน นครเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐจะยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันศุกร์นี้ เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนใกล้ถึงร้อยละ 70 ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 145,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า […]

ซิดนีย์ 13 ก.ย. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุว่า อัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มชะลอตัวหลังฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนเกือบถึงร้อยละ 80 และเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว รวมถึงประกาศผ่อนคลายมาตรการบางส่วนให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสตั้งแต่วันนี้ นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก กล่าวเตือนว่า ประชาชนมีสิทธิเลือกที่จะไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้รับสิทธิทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่นเดียวกับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว หลังรัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนโดสแรกได้เกือบร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด 8 ล้านคน ขณะนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์ยังคงมีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ทางการจึงขอความร่วมมือให้ทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว นอกจากนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการบางส่วนให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป โดยอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวนอกบ้านได้ไม่เกิน 5 คน ขณะที่สมาชิกครอบครัวเดียวกันในพื้นที่ 12 แห่งที่มีการระบาดรุนแรงในนครซิดนีย์สามารถรวมตัวนอกบ้านได้สูงสุด 2 ชั่วโมง รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,257 คน ขณะที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 473 คน ทำสถิติยอดผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดของรัฐในปีนี้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 75,300 คน และผู้เสียชีวิตราว 1,100 […]