รวบพ่อใจทรามข่มขืนลูกในไส้นาน 3 ปี

กรุงเทพฯ 25 เม.ย.- กองปราบรวบพ่อใจทรามข่มขืนลูกในไส้นาน 3 ปี อ้างแค้นเมียทอดทิ้งไปมีสามีใหม่ ก่อนหลบหนีคดีไปนาน 10 ปี 


นายสันต์ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม   ถูกตำรวจกองปราบจับกุมข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตน โดยเด็กหญิงนั้นไม่ยินยอมและเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน โดยจับกุมได้ บริเวณริมถนนคลองชลประทาน ม.6 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม

พฤติการณ์ในคดีดังกล่าว  เมื่อประมาณปี 2550 เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ได้พักอาศัยอยู่กับนายสันต์ฯ (นามสมมุติ) พ่อแท้ๆที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งขณะนั้นเด็กหญิงเอ อายุ 14 ปี โดยพักอาศัยกันเพียงลำพัง 2 คนพ่อลูก เนื่องจากแม่แท้ๆของเด็กหญิงเอได้เลิกรากับนายสันต์ฯไปหลายปีแล้ว เพราะทนนิสัยของนายสันต์ฯ ไม่ได้ ที่พอเลิกงานแล้ว มักจะไปกินเหล้ากับเพื่อน พอตกดึกจะเมากลับมา และจะมาชวนทะเลาะโวยวายจนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านบริเวณนั้น ต่อมาในวันเกิดเหตุ ประมาณกลางปี 2550 นายสันต์ฯเมากลับมาที่ห้องเช่า และพบเด็กหญิงเอ นอนอยู่ในห้องพัก นายสันต์ฯเกิดอารมณ์ทางเพศ ประกอบกับแค้นใจที่แม่ของเด็กหญิงเอหนีไป  จึงเข้าไปใช้กำลังบังคับข่มขืนเด็กหญิงเอ โดยบังคับว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ด้วยความกลัวเด็กหญิงเอ จึงไม่กล้านำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟัง และไม่สามารถติดต่อกับแม่ของตนเองได้ จึงต้องทนถูกพ่อแท้ๆของตนเองข่มขืนเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อเดือนมกราคม 2553 แม่ของเด็กหญิงเอ กลับมาเยี่ยมเด็กหญิงเอที่ห้องเช่าดังกล่าว เด็กหญิงเอจึงเล่าเรื่องดังกล่าวให้แม่ฟังพร้อมกับขอร้องให้พาเด็กหญิงเอไปอยู่ด้วย เนื่องจากนายสันต์ฯขู่ไว้ว่าจะฆ่าให้ตายหากเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง นอกจากนี้เด็กหญิงเอ ยังเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2553 นายสันต์ฯเมากลับมาข่มขืนในห้องเช่าอีก แม่ของเด็กหญิงเอ จึงพาเด็กหญิงเอเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายสันต์ฯ พ่อแท้ๆที่ข่มขืนลูกนานถึง 3 ปี เมื่อนายสันต์ฯ ทราบว่าแม่เด็กหญิงเอเข้าแจ้งความตน จึงหนีออกจาก จ.นครปฐม ไปทำงานรับจ้างทั่วไปที่ จ.ชลบุรี เป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี 


จนกระทั่งวันที่ 24 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนทราบว่านายสันต์ฯ ผู้ต้องหา ได้แอบกลับมาขายไก่ย่างอยู่ริมถนนในเขต อ.เมือง จ.นครปฐม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบนายสันต์ จึงเข้าจับกุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากตนเองโกรธแม่เด็กที่ทิ้งไปมีสามีใหม่ และตนเองติดสุราพอเมาสุราจึงมีความต้องการทางเพศ .-สำนักข่าวไทย   

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง