ยืนยันห้องประชุมสุริยันพร้อมรับการประชุมสภาฯ

รัฐสภา 17 เม.ย.-ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ยืนยันห้องประชุมสุริยันพร้อม 100% สำหรับประชุมสภา และเตรียมห้อง ส.ส. และห้องประชุม กมธ.พร้อมเมื่อเปิดสมัยประชุมในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนการหักเงินเดือน ส.ส.พร้อมดำเนินการ หาก ส.ส.ยื่นเรื่องชัดเจน


นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ห้องประชุมสุริยันมีความพร้อมแล้ว 100% สำหรับจัดการประชุม สมัยสามัญปีที่ 2 สมัยที่ 1 ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ดังนั้นเมื่อเปิดสมัยประชุม และการประชุมในวันที่ 27 พฤษภาคม จะใช้ห้องสุริยันเป็นห้องประชุม ขณะเดียวกันได้มีการเตรียมห้องทำงานของ ส.ส. และห้องประชุมกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ โดยกำหนดให้แต่ละคณะให้ใช้ประจำของตัวเอง ส่วนอีก 10 ห้องจะเป็นห้องประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญ และแยกห้องประชุมของคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ ซึ่งเป็นห้องประชุมใหญ่ไว้ โดยทั้งหมดจะพร้อม หลังเปิดสมัยประชุม และขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 72 ซึ่งตามสัญญาจะต้องแล้วเสร็จในวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้

“ตอนนี้เตรียมไว้พร้อมแล้วจะเป็นการประชุมพร้อมกันในห้องประชุมสุริยัน เนื่องจากกังวลว่าหากไม่ประชุมห้องเดียวในคราวเดียว อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 120 บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องของการนับองค์ประชุมได้ และวาระที่จะบรรจุเข้าสู่การพิจารณาการประชุมวาระแรก จะเป็นเรื่องการพิจารณาพระราชกำหนด” ที่ปรึกษาประธานสภาฯ กล่าว


นพ.สุกิจ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จอดรถ สามารถรองรับการจอดรถได้จำนวน 2000 คัน ที่จะจัดสรรให้ทั้ง ส.ส. เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน พร้อมกันนี้ยังย้ำถึงการเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามายังในพื้นที่บริเวณอาคารรัฐสภา ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งการวัดอุณหภูมิร่างกาย การสวมหน้ากากอนามัย และเพิ่มมาตรการจัดสรรที่นั่งในห้องประชุมสภาฯ โดยการจัดที่นั่งให้ห่างกันเพื่อเป็นการรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ส่วนมาตรการเสริมอื่น ๆ เรื่องการตรวจ ส.ส.ก่อนเข้าห้องประชุมหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาจากสถานการณ์โดยรวมของประเทศ เมื่อใกล้ถึงการเปิดประชุม

ที่ปรึกษาประธานสภาฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับการบริจาคเงินของ ส.ส.สามารถดำเนินการได้ ล่าสุดมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ยื่นหนังสือแจ้งความจำนงในการบริจาคเงินเดือน แต่ต้องมีการแก้ไขข้อความในหนังสือให้ถูกต้องก่อน หาก ส.ส.คนอื่นประสงค์ที่จะให้สภาฯ ดำเนินการหักเงินเดือน ก็สามารถแจ้งได้ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาพาดพิงต่อประธานรัฐสภากรณีว่าไม่เห็นด้วยกับการหักเงินเดือน ส.ส. โดยชี้แจงว่าเป็นความเห็นที่บอกว่าจะไม่หักโดยพลการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับวันนี้ (17 เม.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังคงเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐสภาตามปกติ และย้ำถึงมาตรการในการคัดกรองบุคคลเข้า-ออก บริเวณรัฐสภา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง