กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – กสอ.แนะปั๊มรายได้สู้พิษโควิด-19 ด้วย 5 อุตสาหกรรมครัวเรือน ทั้งกลุ่มสมุนไพร อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่นและของใช้ หลังพบธุรกิจ 35,068 แห่ง และผู้ประกันตน 644,136 คน ขาดรายได้จากการปิดบริการชั่วคราว พร้อมแนะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยกระจายสินค้า
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคมเดือนมีนาคม 2563 พบว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบมีสถานประกอบการและผู้ประกันตนได้รับความเสียหายด้านรายได้และว่างเว้นจากการทำงานจากการปิดบริการชั่วคราว โดยครอบคลุมสถานประกอบการ 35,068 แห่ง และผู้ประกันตน 644,136 คน ดังนั้น เพื่อเป็นการผลักดันให้กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และผู้ว่างงานอยู่รอด กสอ.แนะให้ผู้ได้รับผลกระทบสร้างอาชีพทำเงินได้ด้วย 5 อุตสาหกรรมครัวเรือน ครอบคลุมประเภทสมุนไพร อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น
กลุ่มสมุนไพรแปรรูป การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก แต่เป็นโอกาสดีของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าปีที่ผ่านมามีมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 18,200 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าตลาดดังกล่าวจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 20,000 ล้านบาท จึงถือเป็นหนึ่งในธุรกิจครัวเรือนที่น่าสนใจด้วยการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้ภูมิปัญญาที่มีอัตลักษณ์อย่างการนำพืชสมุนไพร หรือพืชที่ไม่ใช่พืชเศรษฐกิจหลักมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล อาทิ สบู่เหลวล้างมือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย แชมพู และอาหารเสริมสุขภาพ ฟ้าทะลายโจรน้ำขิงสำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวควรสร้างสรรบรรจุภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นและตราสินค้าให้มีความแตกต่าง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร แม้ปัจจุบันภาคการเกษตรยังคงได้รับผลกระทบหนักจากข้อจำกัดด้านการกระจายผลผลิตและการส่งออกอีกทั้งปัญหาราคาตกต่ำจากสินค้าล้นตลาด ดังนั้น การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่สามารถเก็บรักษาได้นานในอุณหภูมิปกติ และคงรสชาติ สี กลิ่นเดิมของอาหารนั้น ๆจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สร้างรายได้แก่เกษตรและผู้ประกอบการ อาทิ การใช้เทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze Drying) ในเมนูอาหาร ผัก หรือผลไม้และเทคโนโลยีอบแห้ง โดยปี 2563 กสอ.เตรียมงบประมาณ 5 ล้านบาทสำหรับโครงการเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปแบบครบวงจรเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ 160 ราย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร 5 ผลิตภัณฑ์
กลุ่มแปรรูปผลไม้ ในช่วงที่คนไทยตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดของโรคติดโควิด-19หนึ่งในวิธีลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ การดื่มเครื่องดื่มที่มีวิตามินซี ดังนั้น ธุรกิจในครัวเรือนที่สามารถดำเนินการได้และเป็นการสร้างรายได้เสริมด้วยการนำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงนำมาแปรรูปในน้ำผลไม้พร้อมดื่ม อาทิ น้ำส้มน้ำฝรั่ง น้ำกีวี น้ำสตรอเบอร์รี่ น้ำมะนาว ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสีล้วนเป็นเครื่องดื่มเสริมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันทั้งสิ้นสำหรับกลุ่มธุรกิจแปรรูปผลไม้ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยปี 2563 กสอ.เตรียมงบประมาณเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปกว่า 28 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ 1,400 ราย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป 200 ผลิตภัณฑ์
กลุ่มสิ่งทอ ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากการแพร่ระบาดผู้ประกอบการสิ่งทอสามารถต่อยอดวัตถุดิบผ้าอย่าง “ผ้ามัสลิน” สู่หน้ากากผ้าได้เนื่องจากผ้าดังกล่าว มีประสิทธิภาพในการป้องกันละอองฝอยได้ดี (ที่มา:กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์) นอกจากนี้ ด้วยกระแสของผลิตภัณฑ์จากเส้นใยธรรมชาติที่ได้รับความนิยมและเป็นเทรนด์สิ่งทอในอนาคตจึงเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการสิ่งทอในการพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอสีเขียว อาทิ‘ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม’ ผ้าทอจากธรรมชาติที่ให้คุณค่าทางวัฒนธรรม‘กระเป๋าแฟชั่นจากเส้นใย’ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตผลทางการเกษตร ด้วยความคิดสร้างสรรค์
กลุ่มงานคราฟต์รักษ์โลก แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยยังไม่คลี่คลายแต่กระแสกรีนมาร์เก็ต (Green Market) ที่เน้นการเลือกใช้วัสดุหรือการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้และอีกหลายปีข้างหน้า ดังนั้น อุตสาหกรรมหัตถกรรม สามารถระดมสมองต่อยอดแนวคิดปั้น “วัตถุดิบท้องถิ่น” สู่ “งานคราฟต์รักษ์โลก”ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่แต่คงความโดดเด่นทางวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ อาทิ กระเป๋ากระจูดไซส์มินิ ดีไซน์เก๋สำหรับใส่สมาร์ทโฟน หรือหน้ากากอนามัย ฯลฯ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมถือเป็นหนึ่ง ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพสูงและน่าจับตามองโดยปีที่ผ่านมามีมูลค่า ทางเศรษฐกิจสูงถึง 87,000 ล้านบาท (ที่มา :ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ)
นายณัฐพล กล่าวว่า ผู้ประกอบการสามารถประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาเป็นช่องทางเสริมเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าในภาวะวิกฤตได้ อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม ตลอดจนการขนส่งแบบเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถเรียนรู้บนออนไลน์ไลฟ์สตรีม ภายใต้โครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤติโควิด-19” จากทาง กสอ.โดยเปิดคอร์สการอบรมหลากหลาย อาทิ การกระตุ้นยอดขายด้วยกูเกิ้ลแอดเวิร์ด (GoogleAdwords) การขายสินค้าผ่านยูทูป และเทคนิคกระตุ้นยอดขายด้วยภาพถ่ายและวีดีโอเพื่อเพิ่มทักษะด้านการตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ และสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น นายณัฐพลกล่าว.-สำนักข่าวไทย