ซันซัลวาดอร์ 13 เม.ย.- ประธานาธิบดีนายิบ บูเกเล ของเอลซัลวาดอร์ ประเทศในอเมริกากลางประกาศว่า ผู้ขับขี่ยวดยานโดยไม่มีเหตุอันสมควรจะถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ ตามมาตรการคุมเข้มเพื่อยับยั้งโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด
รัฐสภาเอลซัลวาดอร์เห็นชอบเมื่อวันที่ 14 มีนาคมให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามที่ประธานาธิบดีขอ เป็นการจำกัดสิทธิการเดินทางและรวมตัวอย่างเสรีเป็นการชั่วคราว เขามีคำสั่งในสัปดาห์ต่อมาให้คนอยู่บ้าน โดยให้แต่ละครอบครัวอออกมาซื้ออาหารและยาได้เพียงคนเดียว ผู้ฝ่าฝืนจะถูกควบคุมตัวนาน 30 วัน ส่วนคนทำงานธนาคาร คนขับรถ พนักงานร้านอาหารและร้านค้าส่ง ผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ คนทำงานซูเปอร์มาร์เก็ต คนทำงานขนส่ง และบุคลากรทางการแพทย์สามารถออกจากบ้านได้ แต่ต้องพกบัตรประจำตัวที่ทำงานและหนังสือรับรองจากนายจ้าง ต่อมาประกาศเมื่อวันที่ 5 เมษายนว่าจะขยายมาตรการให้คนอยู่บ้านไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน ขอให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้มงวดคนที่ออกจากบ้าน ใครฝ่าฝืนควรถูกยึดรถ แต่ศาลฎีกามีคำชี้ขาดในเวลาต่อมาว่า ตำรวจไม่มีสิทธิยึดรถหรือทรัพย์สินประชาชน ล่าสุดผู้นำเอลซัลวาดอร์ทวีตเมื่อวานนี้ว่า ผู้ขับขี่โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะถูกยึดใบขับขี่ และผู้ออกมานอกบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัย
กลุ่มสิทธิวิจารณ์ว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ ทำตามอำเภอใจ ละเมิดสิทธิ และจับกุมคนอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม โดยอ้างรายงานข่าวว่า มีการลอบนำอาหารไปให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งที่ศูนย์จำกัดการแพร่เชื้อ และข่าวแกนนำคนหนึ่งในพรรครัฐบาลถูกปล่อยตัวไปทั้งที่เมาแล้วขับ เอลซัลวาดอร์ซึ่งมีประชากร 6.5 ล้านคนพบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 125 คน เสียชีวิต 6 คน.-สำนักข่าวไทย