กทม. 11 เม.ย. – ภาพประทับใจ! บุคลากร รพ.รามาฯ ส่งผู้ป่วยโควิดวิกฤติรายแรก รักษาหายกลับบ้าน
ศ.นพ.สมนึก สังฆานุภาพ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี แชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก เป็นภาพบุคลากรทางการแพทย์ยืนเรียงแถวส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้าน พร้อมข้อความว่า “หลังจากที่พวกเราได้ต่อสู้กับ COVID-19 มาเป็นเวลาสี่สัปดาห์ ผู้ป่วยรายแรกของเราที่เป็นผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องเข้าไอซียูใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจมาเป็นเวลาเกือบเดือน โดยสู้จนสุดกำลัง โดยเฉพาะทีมแพทย์และพยาบาลไอซียู ผู้ป่วยอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถย้ายออกจากไอซียูมาที่หอผู้ป่วยกึ่งวิกฤตและตรวจไม่พบเชื้อซ้ำกันสองครั้ง อาการดีขึ้นจนสามารถกลับบ้านได้
นี่คือผลงานที่เราไม่เคยคิดว่าเราจะสามารถทำได้เมื่อเดือนที่แล้วกับโรคที่เราไม่รู้จักมาก่อนในผู้ป่วยวิกฤตสูงอายุที่มีโรคประจำตัวมากมาย พวกเราทุกคนจึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดีดีนี้ให้กับโรงพยาบาลทุกแห่งในประเทศไทย เพื่อเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคนี้ต่อไปในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยอีกหลายรายที่อยู่ในขั้นวิกฤตในไอซียูของเรา ยังมีอาการหนักและต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ทุกๆคนก็ยังคงต้องใช้พลังที่มีอยู่ทั้งหมดในการรักษาผู้ป่วยเหล่านี้ต่อไป แต่สิ่งดีดีที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราเองทุกคนเช่นกัน
#เราอยู่ที่นี่เพื่อคุณ #โปรดอยู่ในบ้านเพื่อเรา #กลับจากต่างประเทศโปรดกักตัวเอง14วัน #อย่ารังเกียจผู้ป่วยCOVID19กลับบ้าน #รักษาหายแล้วคือคนดีคนเดิม “
นี่เป็นภาพของพยาบาลที่โพสต์ผ่าน FB คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่รวมตัวกันร้องเพลง Happy Birthday เพลงผ่าน VDO Call ให้กับคนไข้ สุขสันต์วันเกิด ขอให้หายไวไวนะคะ เพราะเห็นว่า”วันสำคัญของคุณ กับคนสำคัญของเรา” เพราะคนไข้ทุกคน คือคนสำคัญของเรา
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อาการเป็นอย่างไร เราจะอยู่เคียงข้างกัน สู้ไปด้วยกัน วันนี้ วันเกิดคนไข้ COVID-19 ที่รับการรักษาอยู่ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
เช่นเดียวกันที่โรงพยาบาลจุฬา นพ.โอภาส พุทธเจริญ ได้โพสต์ภาพส่งกลับคนไข้เช่นกัน โดยข้อความระบุว่า “คนไข้ใจแข็งแกร่ง วันนี้ส่งคนไข้แท็กซี่ผู้หญิงป่วยเป็นโควิด (ติดจากสัมผัสนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ) ที่ใส่ท่อช่วยหายใจกลับบ้านไปเจอลูกๆ แล้วครับ หลังจากที่นอนไอซียูเกือบสามสัปดาห์เพราะปอดอักเสบรุนแรง จนระบบหายใจล้มเหลว ตอนที่ถอดท่อช่วยหายใจ สิ่งที่เธอพูดประโยคแรกคือลูกสองคนติดหรือเปล่า โชคดีที่เราตามตรวจทั้งสามีและลูกไม่พบว่ามีเชื้อโควิดเลย ขณะที่คนไข้นอนโรงพยาบาล เราก็ถามสามีคนไข้ว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย เพราะทราบว่ากำลังใช้เงินเก็บก้อนสุดท้ายสามพันบาท และมีคนแสดงเจตจำนงช่วยเหลือเงินมาเป็นจำนวนมาก สามีคนไข้ตอบเราว่าขอทำงานเองไปก่อนเพราะเจ้านายเข้าใจยังให้ทำงานต่อ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวบอกหมอเอง แต่ตอนคนไข้กลับบ้านคราวนี้เรา “บังคับ” ให้รับเงินเล็กๆ น้อยๆ กับนมกล่องที่หมอๆ ช่วยกันรวบรวมเป็นค่าขนมเด็กๆ ครับ อีกสองอาทิตย์คนไข้จะกลับไปทำงานต่อ บางทีฮีโร่ของเราก็คือคนไข้ของเราเอง” . – สำนักข่าวไทย