กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – นโยบาย Social Distancing และการนิยมสั่งซื้ออาหารไปรับประทานที่พัก ช่วยหนุนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เพียง 1 เดือน โต 200-300% ส่วนสิ่งพิมพ์ส่งถึงบ้านอย่างหนังสือพิมพ์ หวั่นจะพาโควิด-19 เข้าบ้านบางส่วนยกเลิกชั่วคราว ขณะที่สัปดาห์หนังสือแห่งชาติปรับตัวเปลี่ยนเป็นงานแบบออนไลน์
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และในฐานะประธานคลัสเตอร์กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ มาก ความต้องการน้อยลง มีงานพิมพ์ของโรงพิมพ์ลดลง เช่น ผู้รับหนังสือพิมพ์หรือหนังสืออื่นแบบส่งถึงบ้านเกรงว่าจะมีเชื้อโควิด-19 ติดมาถึงบ้าน จึงยกเลิกสั่งชั่วคราว การอ่านหนังสือในรูปแบบของอีบุ๊ค (E-Books) หรือหนังสืออิเล็กทรอกนิกส์ จึงเพิ่มมากขึ้นในหลากหลายหมวดหมู่ นอกจากนี้ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติก็ต้องปรับเป็นแบบออนไลน์แทน เป็นต้น
นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในทางตรงกันข้ามกลุ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งที่เป็นกระดาษและภัณฑ์พลาสติกยืดหยุ่นสูง ขวดพลาสติกหัวกด หรือหัวฉีดสเปรย์สำหรับใช้ใส่เจลใส่แอลกอฮอล์ 70% ล้างมือป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 รวมทั้งถ้วย ชาม จาน กระดาษและวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ มีความต้องการใช้เติบโตอย่างมาก โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 200-300% จนผู้ผลิตไม่สามารถรับงานได้ทัน เนื่องจากวิถีชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไปจากมาตรการภาครัฐที่เน้นนโยบาย Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างระหว่างกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ส่งผลให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทใช้แล้วทิ้งในกลุ่มสินค้าอาหารแบบส่งถึงบ้านเพิ่มมากขึ้น และภาคอุตสาหกรรมอาหารก็เช่นกันมีการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกยืดหยุ่นสูงเพิ่มมากขึ้น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างยี่ห้อมาม่า และอื่น ๆ รวมถึงอาหารบรรจุซองต่าง ๆ ก็มีสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกยืดหยุ่นสูง เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่ขวดพลาสติกหัวกดหรือหัวฉีดสเปรย์ก็ขาดตลาด การนำเข้าจากจีนทำได้น้อย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มีงานล้นมือ ทำให้สัดส่วนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ต่ออุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์เริ่มเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เติบโตขึ้นอย่างมาก คาดว่า ในอีก 9 เดือนข้างหน้าหากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง การใช้บรรจุภัณฑ์ก็จะยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท สัดส่วนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ต่อการพิมพ์ จะเปลี่ยนแปลงจากประมาณร้อยละ 60 ต่อ 40 ไปเป็น 65 ต่อ 35 ได้ในสิ้นปีนี้ โดยมูลค่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ประเมินว่าจะมีมูลค่าประมาณ 240,000-250,000 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์จะมีมูลค่าลดลงเหลือประมาณ 50,000 ล้านบาท รวมมูลค่ากลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ปีนี้ คาดว่า จะยังคงอยู่ที่ประมาณ 300,000 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย