ทรัมป์ ลงนามร่างช่วยเหลือใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐแล้ว รับมือโควิด-19

วอชิงตัน 28 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เร่งลงนามร่างมาตรการช่วยเหลือครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ มูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71.39 ล้านล้านบาท) แล้วเพื่อรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19


สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากผ่านความเห็นชอบร่างนี้เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ตามหลังวุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากและเป็นผู้ร่างมาตรการนี้ เป็นการร่วมใจที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก สะท้อนถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ในสหรัฐที่มีผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดในโลก ส.ส.แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวปิดการอภิปรายนาน 3 ชั่วโมงก่อน ส.ส.ลงมติว่า ประเทศกำลังเผชิญเหตุฉุกเฉินทางเศรษฐกิจและสุขภาพจากการแพร่ระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 100 ปี ไม่ว่าหลังจากนี้จะทำอะไร แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการผ่านร่างกฎหมายนี้ อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้เชิญแกนนำพรรคเดโมแครตไปร่วมพิธีลงนามร่างกฎหมายที่ทำเนียบขาว โดยมีแต่คนพรรครีพับลิกันเท่านั้น และไม่ยอมรับมาตราในร่างกฎหมายที่กำหนดให้ตั้งผู้ตรวจสอบการให้เงินกู้และการลงทุน  ด้าน ส.ส.เปโลซีเผยกับสื่อว่า สภาผู้แทนราษฎรจะแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นเองเพื่อตรวจสอบว่ามีการนำเงินไปใช้อย่างถูกต้องหรือไม่ 

มาตรการความช่วยเหลือ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71.39 ล้านล้านบาท) นี้เป็นมาตรการช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่สภาสหรัฐเคยอนุมัติ ประกอบด้วยการช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนัก 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16.22 ล้านล้านบาท) การให้เงินโดยตรง 290,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.41 ล้านล้านบาท) แก่ประชาชนสูงสุดครอบครัวละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 97,360 บาท) การให้สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.36 ล้านล้านบาท) การช่วยเหลือการว่างงาน 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.11 ล้านล้านบาท) และการช่วยเหลือโรงพยาบาลและระบบสาธารณสุข 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.24 ล้านล้านบาท).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง