สมอ. สั่ง Work from home ย้ำประสิทธิภาพการให้บริการยังคงเดิม

กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – สมอ. ขานรับนโยบายรัฐบาล หลัง ครม. มีมติให้ส่วนราชการออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่บ้านพัก (Work from home) พร้อมให้ความมั่นใจประสิทธิภาพการให้บริการยังคงเหมือนเดิม 


นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ได้เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยให้ส่วนราชการพิจารณากำหนดมาตรการการปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 สมอ. ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีผู้ประกอบการและประชาชนเข้ามาติดต่อราชการเป็นจำนวนมาก ขานรับนโยบายดังกล่าวโดยการกำหนดมาตรการและหลักเกณฑ์การปฏิบัติงานภายในที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่ สมอ. ซึ่งมีมากกว่า 60% สามารถปฏิบัติงานในที่พักได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน และการให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชน ซึ่งยังคงสามารถติดต่อราชการกับ สมอ. ได้ตามปกติ 

ทั้งนี้ การปฏิบัติงานโดยส่วนใหญ่ของ สมอ. เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งกระบวนการออกใบอนุญาต การตรวจติดตาม และการชำระค่าบริการต่างๆ สามารถดำเนินการผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ที่ www.tisi.go.th ดังนั้น มาตรการการปฏิบัติงานภายในที่พัก จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ และประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการของ สมอ. ได้ตามปกติทุกที่ทุกเวลา สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องมารับใบอนุญาต สมอ. จะดำเนินการจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ สมอ. 


เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ขอย้ำว่า แม้จะมีมาตรการ Work from Home แต่ก็ยังคงให้บริการตามปกติในทุกส่วนงาน จึงขอให้ผู้ประกอบการและประชาชนมั่นใจว่า การดำเนินงานของ สมอ. ยังคงประสิทธิภาพเหมือนเดิมทุกประการ โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 30 เมษายน 2563  หลังจากนั้นจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้เหมาะสมต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้