รัฐบาลยกเลิกจัดงานสงกรานต์ทั่วประเทศ

ทำเนียบฯ 13 มี.ค.-กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เผย หลังโควิด-19 ระบาด มีแนวโน้มรายได้ท่องเที่ยวหดกว่า 3 แสนล้านบาท หวังสถานการณ์ยุติภายในสิ้นเดือน มี.ค. แนะกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง ประกาศยกเลิกอีเวนท์สงกรานต์ทั่วประเทศ ขอเอกชนให้ความร่วมมือ


นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อโควิด-19  โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงตัวแทนจากคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 มีความห่วงใย เมื่อวาน (12 มี.ค.) จึงลงพื้นที่โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ 

นายเทวัญ กล่าวว่า ไทยได้เฝ้าระวังคัดกรองจากประเทศต้นตอ นอกจากทิศทางการเฝ้าระวังแล้ว รัฐบาลยังเล็งเห็นความสำคัญวางมาตรการรอบด้านเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย  ไทยยังสามารถรักษาระดับการควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่ 2 ขณะนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ 75 คน เสียชีวิต 1 คน ขณะที่ผู้รับผิดชอบได้ดูแลผู้เฝ้าระวังอยู่ที่บ้านต่างทำงานกันอย่างแข็งขัน รัฐบาลเป็นห่วงและเฝ้าระวัง บูรณาการ เตรียมการจำกัดวงการแพร่ระบาด ผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ขอเชิญชวนประชาชน ให้เปลี่ยนจากสาดน้ำสงกรานต์ ไปทำบุญที่วัดแทน ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ขอความร่วมมือแต่ละวัดให้เตรียมความพร้อมเรื่องการทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จาการท่องเที่ยว 1.96 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 39.8 ล้านคน ในเดือนมกราคม 2563 ยังเพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซ็นต์ และเริ่มน้อยลงเมื่อมีการประกาศจากทางการจีน ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวรุนแรงขึ้น โดยนับแต่วันที่ 1-11 มี.ค. มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 555,000 คน หายไปประมาณ 57.26 เปอร์เซ็นต์ 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า หากประเทศไทยสามารถทำให้สถานการณ์ยุติลงในวันสิ้นเดือน เม.ย. ประมาณการจะมีนักท่องเที่ยวถึงสิ้นปีนี้ที่ 36.9 ล้านคน มีรายได้ 1.78 ล้านล้านบาท หายไปประมาณแสนล้านบาท แต่หากว่าโควิด-19 ยังไม่ยุติ แล้วเลยไปถึงเดือน มิ.ย.2563 กว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ประมาณการว่าจะมีนักท่องเที่ยว 32.5 ล้านคน มีรายได้ 1.58 ล้านล้านบาท หายไปประมาณ 3 แสนล้านบาท หวังว่าทุกอย่างจะจบให้ได้ในสิ้นเดือนมีนาคม โดยเชื่อว่าเมื่อประเทศไทยมีระบบคัดกรองที่ดีแล้ว ก็จะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลง 


นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ นำเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยในส่วนของข้าราชการที่ยกเลิกการประชุมสัมมนาไปแล้ว สามารถเริ่มจัดได้ใหม่ในเดือนเมษายน ซึ่งจะทำให้ลำดับความเสียหายค่อย ๆ ลดลง นอกจากนี้จะหารือกับทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ท้องถิ่นไปประชุมตามจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ 

สำหรับมาตรการ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นเทศกาลสำคัญของคนไทย การจัดอีเวนท์ใหญ่ ๆ ที่ กระทรวง โดย ททท.มีส่วนเกี่ยวข้องได้ประกาศยกเลิกทั้งหมดแล้ว ส่วนเอกชนทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ขอความร่วมมือไปแล้วให้ยกเลิกหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมไปก่อน  เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงให้ภาคเอกชนจัดกิจกรรมในช่วงอื่นที่สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว รวมถึงการแข่งขันกีฬา ได้มีการเลื่อนจัดการแข่งขันเช่นกัน ซึ่งหากบางประเภทที่ไม่สามารถเลื่อนได้ ก็ให้จัดโดยไม่มีผู้ชมงานกีฬา

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงภาพรวม การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วย 75 คน ขณะนี้ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นตามลำดับ และเชื่อว่าจะควบคุมได้ เพราะใช้มาตรการที่เป็นมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ในการควบคุมดูแล 

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทางแรงงานจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุย เพื่อสอบถามความสนใจประเภทของงานที่ต้องการ ในกรณีที่ยังไม่มีงานรองรับ หรือช่วยให้คำแนะนำในการจัดหางานให้ตามความถนัด นอกจากนี้ได้ติดตั้งตู้สอบถามความคิดเห็นไว้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เพื่อให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศสามารถสอบถามกระบวนการจัดหางานที่มีตำแหน่งว่างในเมืองไทยได้เอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง