รวบหนุ่มฉุดเหยื่อขึ้นรถแท็กซี่หวังอนาจาร หลบหนีคดี15ปีอีก5เดือนเป็นอิสระแต่ไม่รอดถูกจับ

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – กองปราบรวบหนุ่มฉุดเหยื่อขึ้นรถแท็กซี่ หวังทำอนาจาร หลบหนีคดีตั้งแต่ปี 48 เหลืออีก 5 เดือนคดีสิ้นสุด แต่ไม่รอดถูกจับกุม 


ตำรวจกองปราบจับกุมนายวศิน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีต่อหน้าธารกำนัล, ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ, หน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จากกรณีวันที่ 25 ส.ค. 2548 ขณะที่ผู้เสียหายยืนรอผู้ปกครองมารับบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว พร้อมกับกลุ่มเพื่อน นายวศินฯได้เข้ามาขอพูดคุยกับผู้เสียหายในเชิงชู้สาว แต่ผู้เสียหายไม่ยอมพูดคุยด้วย จากนั้นนายวศินฯจึงได้ฉุดลากผู้เสียหายไปตามถนน ผู้เสียหายพยายามสะบัดมือออกแต่นายวศินฯจับไว้แน่น พร้อมกับพูดข่มขู่ให้เดินตามมาและอย่าขัดขืน ต่อมาเพื่อนของผู้เสียหายจึงตะโกนว่าแม่มารับแล้ว นายวศินฯจึงปล่อยมือ ผู้เสียหายจึงได้วิ่งหนีไปหากลุ่มเพื่อน หลังจากนั้นนายวศินฯได้วิ่งตามมาพร้อมกับดึงแขนผู้เสียหายและดึงคอเสื้อแล้วเรียกรถแท็กซี่ เมื่อรถแท็กซี่จอดจึงได้ผลักผู้เสียหายขึ้นรถแล้วบอกให้คนขับออกรถมุ่งหน้าไปซอยพหลโยธิน 24 เพื่อหวังพาไปยังหอพักของนายวศินฯ แต่ผู้เสียหายได้อาศัยจังหวะขณะที่รถคันดังกล่าวจอดติดไฟแดงลงจากรถและวิ่งหลบหนี หลังจากนั้นผู้เสียหายได้แจ้งให้บิดามารดาทราบเรื่อง และได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สน.พหลโยธิน

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ตำรวจได้เบาะแสว่าผู้ต้องหาหนีมาพักอาศัยอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านหนองจอก จึงเข้าจับกุม เบื้องต้นนายวศินฯ ให้การรับสารภาพ ว่าตนก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากขณะนั้นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาดี ตนจึงคิดที่จะจีบแต่ผู้เสียหายไม่เปิดใจ ทำให้ตนเกิดอาการหึงหวงและก่อเหตุดังกล่าว หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีและเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ปี โดยจะเลือกสมัครงานประเภทที่ไม่ต้องกรอกรายละเอียดประวัติส่วนตัว เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ จนเหลืออีกประมาณ 5 เดือน คดีดังกล่าวก็จะหมดอายุความ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตัวในที่สุด .-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง