ปณท ยันไม่หยุด บุกรับของถึงบ้านสู้โควิด-19

กรุงเทพฯ 5 มี.ค. ปณท ยันไม่หยุดให้บริการ เปิดมาตรการสู้โควิด 19 เตรียมรับส่งของถึงบ้าน ผลิตเจลราคาถูก


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงการสร้างความมั่นใจยกระดับมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19  ของบริษัทไปรษณีย์ไทยว่า จากสถาน การณ์โควิด-19  ดีอีเอสเป็นห่วงทั้งผู้ใช้บริการและพนักงานของไปรษณีย์ไทยที่ต้องให้บริการประชาชน โดยขอปณท ให้ดูแลสุขภาพและความปลอดภัยให้กับพนักงาน และพี่น้องประชาชนให้ดี คาดว่าหากสถานการณ์ยังคงต่อเนื่องอีก 2-3 เดือน ปริมาณความต้องการยริการขนส่งสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรองรับการอยู่บ้านการทำงานที่บ้าน โดยจะต้องวางแผนที่จให้บริการต่อเนื่องไม่หยุดให้บริการ กระทรวงอยากให้ปณท ใช้โอกาสนี้เพื่อให้บริการเป็นหลักกับประชาชนให้ประชาชนมั่นใจ 


“ โจทย์ที่จะเกิดบริการบริการใหม่ที่จะเกิดขึ้นคือการไปรับและส่งของถึงที่บ้าน โดยสามารถรับของจ่ายเงิน ลงทะเบียนถึงที่บ้านโดยไม่ต้องออกไปที่ทำการไปรษณีย์ นอกจากนี้ในอนาคต ปณท จะเป็นคนกลางขนส่งแบะกระจายผลผลิตทางการเกษตรไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อลำเลียงไปให้ถึงผู้บริโภค ปณท ได้ยืนยันแล้วว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรจะไม่หนุดทำงาน  “


นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย กล่าวว่า มาตรการของปณท จะมีบริการเจลทำความสะอาดมือสำหรับผู้ใช้บริการที่ทำการไปรษณีย์ โดยกำชับให้ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งรวมถึงร้านไปรษณีย์ไทยและเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆทุกครึ่งชั่วโมงอาทิที่จับประตูจุดกดบัตรคิวเก้าอี้เคาน์เตอร์ให้บริการ เจ้าหน้าที่-ไปรษณีย์ไทยจัดซื้อหน้ากากอนามัยชนิดป้องกันเชื้อไวรัสสำหรับให้ผู้ปฏิบัติงานใช้งานและจัดทำแอลกอฮอล์เจลฆ่าเชื้อสำหรับล้างมือจัดส่งให้กับสำนักงานไปรษณีย์ในพื้นที่นครหลวงและภูมิภาคเพื่อกระจายไปยังที่ทำการไปรษณีย์ในสังกัด-เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการลูกค้าต้องใส่หน้ากากอนามัยพร้อมล้างมือบ่อยๆ-ให้บุรุษไปรษณีย์ตรวจร่างกายก่อนออกไปนำจ่ายทุกวันถ้ามีอาการไข้ไอเจ็บคอจะมีผู้ปฏิบัติงานแทน-ห้ามผู้ปฏิบัติงานเดินทางหรือแวะผ่านประเทศหรือเขตปกครองที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคCOVID-19 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขหากมีการเดินทางก่อนหน้าและกลับจากประเทศดังกล่าวระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์    -19 เมษายน 2563 ให้เฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตร การของไปรษณีย์ไทยโดยอ้างอิงจากคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 19 (COVID-19) กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขซึ่งพนักงานไปรษณีย์ไทยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้หากสถานการณ์มีความรุนแรงจะตั้งวอรูมเพื่อกระจายการรับฝากสิ่งของไปให้ยริการที่บ้าน แบะมีการฉีดยาฆ่าเชื้อพัสดุและสิ่งของก่อนนำส่ง และจะร่วมกับองค์การสุราผลิตและวางจำหน่ายเจลทำความสะอาดในราคาถูกจำหน่ายในที่ทำการไปรษณีย์-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง