กรุงเทพฯ 3 มี.ค. – กรมวิชาการเกษตรวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ปทุมมา 4 พันธุ์ใหม่ ให้เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่โดดเด่นทั้งสีสันสะดุดตา ให้ดอกไว ผลผลิตช่อดอกมาก ก้านช่อดอกตรง แข็งแรง ทำให้มีอายุการใช้งานนานทั้งในกระถางและปักแจกัน หวังรักษาตลาดส่งออก พร้อมรองรับความต้องการตลาดต่างประเทศไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท /ปี
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า พืชกลุ่มกระเจียวและปทุมมาเป็นไม้ดอกเมืองร้อนที่มีสีสันสวยงาม โดดเด่น สะดุดตา มีรูปทรงที่สง่า อายุการออกดอกบนต้นและอายุการปักแจกันมีความคงทน ชาวต่างชาติจึงขนานนามไม้ดอกชนิดนี้ว่าสยามทิวลิป ประเทศไทยมีพื้นที่การผลิตปทุมมาประมาณ 400 ไร่ แหล่งผลิตใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน เลย ชัยภูมิ และกาญจนบุรี ถือเป็นไม้ดอกเศรษฐกิจสำคัญมีการส่งอออกไปต่างประเทศมากเป็นอันดับ 2 รองจากกล้วยไม้ มีมูลค่าการส่งออก 30 – 40 ล้านบาท/ปี ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการหัวพันธุ์ปทุมมาไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท/ปี
ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงรายเป็นแหล่งรวบรวมสายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับประเภทเหง้าและอื่น ๆ โดยเฉพาะดอกปทุมมาและกระเจียวมากกว่า 500 สายพันธุ์ ถือเป็นแหล่งเพาะสายพันธุ์ได้มากสุดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2538 ได้พัฒนาปรับปรุงพันธุ์ปทุมมาให้มีลักษณะแปลกใหม่จากพันธุ์ที่มีอยู่เดิมในท้องตลาดทั้งทรงต้น ช่อดอก และสีของดอก สำหรับใช้ผลิตเป็นไม้ตัดดอกและไม้กระถาง เกษตรกรและผู้ส่งออกสามารถนำพันธุ์ใหม่ไปปลูกทดแทนพันธุ์เดิม เพื่อเพิ่มผลผลิตและชนิดสินค้า ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นสามารถกระตุ้นตลาดและรักษาส่วนแบ่งของตลาดปทุมมาไทยได้จนประสบความสำเร็จได้ปทุมมาพันธุ์ใหม่ขอรับการรับรองพันธุ์จากรมวิชาการเกษตรถึง 4 พันธุ์ ซึ่งแต่ละพันธุ์มีลักษะเด่นแตกต่างกันไป
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า ปทุมมา 2 พันธุ์แรกเป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับผลิตเป็นไม้กระถาง คือ ปทุมมาพันธุ์เชียงราย 1 เป็นพันธุ์ที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างปทุมรัตน์กับเทพรำลึก ลักษณะเด่น คือ ช่อดอกเป็นทรงกระบอกสั้น กลีบประดับสีชมพูเข้ม กลีบเรียงซ้อนกันเป็นระเบียบสวยงามและบิดเป็นเกลียว ออกดอกเร็ว อายุปลูกถึงให้ดอก 50 – 70 วัน ผลผลิตช่อดอกมาก 3 – 4 ดอก/กอ อายุการใช้งานนาน 4 – 7 สัปดาห์ และปทุมมาพันธุ์เชียงราย 3 เป็นพันธุ์ที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างปทุมรัตน์กับบัวขาว ลักษณะเด่น คือ ช่อดอกเป็นทรงกระบอกสั้น กลีบประดับสีขาวบริสุทธิ์ สวยสะอาดตา เรียงตัวเป็นระเบียบ อยู่ระดับเดียวกับใบ ก้านช่อดอกตรง แข็งแรง เหมาะสำหรับผลิตเป็นไม้ดอกกระถางขนาดกลาง ออกดอกเร็ว อายุปลูกถึงให้ดอก 56 – 62 วัน ผลผลิตช่อดอก 2 – 3 ดอก/กอ และให้ดอกพร้อมกัน อายุการใช้งานในกระถางนาน 4 – 5 สัปดาห์
ส่วนปทุมมาอีก 2 พันธุ์ เหมาะสำหรับผลิตเป็นไม้ตัดดอกปักแจกัน คือ ปทุมมาพันธุ์เชียงราย 2 เป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างปทุมรัตน์กับบัวขาว ลักษณะเด่น คือ ช่อดอกเป็นรูปทรงกระสวย สวยงาม แปลกใหม่ กลีบประดับทั้งส่วนบนและส่วนล่างมีสีชมพู ดูอ่อนหวาน ให้ผลผลิตช่อดอกมาก 6 – 8 ดอก/กอ การแตกกอดี ผลผลิตหัวพันธุ์ 5 – 9 หัว/กอ อายุปักแจกันนานถึง 13 วัน และปทุมมาพันธุ์เชียงราย 4 ลักษณะเด่น คือ กลีบประดับแยกชั้นอย่างชัดเจน โดยกลีบประดับส่วนบนสีชมพูปลายกลีบแต้มสีเขียวลายเส้นสีแดง กลีบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย กลีบประดับส่วนล่างสีเขียว ด้านล่างของกลีบมีวงสีน้ำตาลแดง ก้านช่อดอกตรงและแข็งแรง ผลผลิตช่อดอก 3 – 7 ดอก/กอ ผลผลิตหัวพันธุ์ 4 – 7 หัว/กอ อายุปักแจกันนาน 14 วัน
“มั่นใจว่าปทุมมาทั้ง 4 พันธุ์ใหม่จะเป็นที่ต้องการของตลาดไม้ดอกไม้ประดับทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยไทยมีตลาดส่งออกปทุมมาสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อเมริกา และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูง เกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย โทร.053-170100” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย