กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – เอเซียพลัสมองตลาดหุ้นไทยช่วง 2-3 ปีนี้ยังไม่สดใส ขณะที่การร่วงของดัชนีหุ้นถือว่าเป็นไปตามภาวะปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลก
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า สถานการณ์ในตลาดหุ้นไทยที่ตกลงมาต่ำถือว่าเป็นการตกแบบมีเหตุผล ตามสถานการณ์ลบที่เกิดขึ้น ทั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หากปีนี้จีดีพีโตถึง 2% ถือเป็นบุญเก่า เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไม่เปลี่ยนแปลงยังคงพึ่งพาการส่งออก บริการ และกลุ่มอาหารเป็นหลัก โดยตลาดหุ้นไทยไม่มีบริษัทขนาดใหญ่ด้านเทคโนโลยีของไทยเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทก่อสร้าง หรือติดตั้งชิ้นส่วนเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดอเมริกาและตลาดยุโรปจะมีบริษัทขนาดใหญ่ด้านเทคโนโลยีในตลาดหุ้นค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ยังพบว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังไม่ดี โดยกำไรต่อหุ้นปี 2562 ยังต่ำเมื่อเทียบกับปี 2561 จึงมองช่วง 2-3 ปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังไม่สดใส
ขณะที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลขณะนี้ เพราะรัฐบาลยังคงทำในสิ่งที่อาจเกี่ยวข้องกับคอร์รัปชั่น ดังนั้น จากสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้รัฐบาลควรเลี่ยงทำสิ่งที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือ และเร่งสร้างความเชื่อมั่นเรียงลำดับความสำคัญการดำเนินนโยบาย เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นไทย ดัชนีจะลดลงขณะนี้ แต่มองยังเป็นโอกาสของนักลงทุนจากราคาหุ้นที่ถูกลง และหุ้นหลายตัวยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มที่เกี่ยวกับการบริหารหนี้เสีย เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีทิศทางหนี้เสียอาจสูงขึ้น แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว กลุ่มที่ได้อานิสงส์จะตกไปอยู่ที่กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มที่เกี่ยวกับ 5จี
สำหรับผลประกอบการของเอเซียพลัสปี 2562 มีรายได้รวม 1,918 ล้านบาท กำไรสุทธิ 359 ล้านบาท โดยมีรายได้จากธุรกิจบริการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ สัดส่วน 40% ลดลงจาก 45% ในปีก่อน รายได้จากธุรกิจกองทุนรวมและรายได้จากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ 26% เท่าปีก่อน รายได้จากธุรกิจแคปปิตอลมาร์เก็ต และวาณิชธนกิจ เพิ่มเป็น 16% จาก 14% ปีก่อน และรายได้จากธุรกิจการลงทุนของบริษัทเอง เพิ่มเป็น 18% จาก 14% ปีก่อน
ขณะที่ปี 2563 เอเซียพลัสตั้งเป้ารายได้รวมโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน โดยจะรุกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี ได้แก่ ธุรกิจบริการซื้อขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศ ธุรกิจกองทุนรวม ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และธุรกิจแคปปิตอลมาร์เก็ต .- สำนักข่าวไทย