เชียงใหม่ 24 ก.พ.-“แหนมหมู” เคยกินกันแล้ว มาลองชิม…”แหนมกบ” กันดูบ้าง กลุ่มแม่บ้านในอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ รวมกลุ่มผลิตแหนมกบเจ้าแรกในไทย สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลายเท่าตัว
กลุ่มแม่บ้าน บ้านโป่งสามัคคี ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำกบที่น็อกน้ำแข็ง มาลอกหนังออก ก่อนนำไปล้างให้สะอาดและสับ นำเนื้อน่องและสะโพกมาทำแหนม ส่วนขากบ หัวกบ จะแยกออกมา เพื่อนำไปทำเมนูทอดกระเทียม และหนังกบจะนำไปทอด หรือ ตากแห้ง ส่วนเนื้อติดกระดูก จะนำไปล้างให้สะอาด คลุกเคล้าส่วนผสม เมื่อเข้าเนื้อกบแล้ว จึงนำแหนมกบที่ได้ใส่ในถุงพลาสติก ชั่งน้ำหนักให้ได้ 100 กรัม และมัดเป็นห่อแบบแหนมตุ้ม ทิ้งไว้ประมาณ 1- 2 วัน ก็สามารถรับประทานได้ โดยสามารถทานได้ ทั้งแบบดิบ หรือนำไปทอด ก็ได้รสชาติที่อร่อยไม่แพ้กัน แหนมที่ทำจากหมู แต่จะนุ่มกว่า
ขณะที่ ขากบ หรือหัวกบ และหนังกบ จะนำไปทอดกรอบ เป็นอาหารทานเล่น หรือเป็นกับข้าว ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากกบได้ทั้งตัว โดยกบที่เลี้ยงปกติขายกิโลกรัมละ 80 – 120 บาท แต่เมื่อนำมาทำแหนม ใช้กบสด 5 กิโลกรัม จะได้แหนมประมาณ 2.7 กิโลกรัม ห่อ 100 กรัม ขายห่อละ 20 บาท
นางจันทกานต์ บาลชมภู ประธานกลุ่มแม่บ้าน บ้านโป่งสามัคคี บอกว่า การทำแหนมกบเป็นการต่อยอดจากอาชีพเลี้ยงกบ ถือเป็นไอเดียใหม่เป็นแห่งแรกของประเทศ ซึ่งเดิมในหมู่บ้านก็มีกลุ่มทำแหนมซี่โครง แหนมหมู แหนมไก่ ขายกันอยู่แล้ว แต่แหนมกบยังไม่เคยทำ จึงทดลองทำและทานกันเองก่อน ปรากฏว่ารสชาติอร่อย จึงมีแนวคิดจะทำเป็นอาชีพ เพราะกบ 1 ตัว สามารถนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ซึ่งทางกลุ่มมีแผนจะขยายตลาดให้กว้างขึ้น.-สำนักข่าวไทย