เตรียมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง

กทม. 13 ก.พ.-กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน ระดมสมองรับมือภาวะท่องเที่ยวที่ทรุดตัวจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 คาดกลางปีสถานการณ์น่าจะฟื้นตัว เตรียมเสนอมาตรการเพิ่มกระตุ้นการท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขและรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวยั่งยืน ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐ การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว เข้าร่วมระดมความคิดเห็นกำหนดมาตรการรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาไทยลดลงตั้งแต่ต้นปี โดยตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์ 2563 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย 4,427,797 คน หดตัวร้อยละ 11.62 ส่วนระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2563 มีทั้งสิ้น 730,213 คน หดตัวร้อยละ 43.47 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์ 2563 มี 1,015,153 คน หดตัวร้อยละ 30.43 ส่วนระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2563 มีทั้งสิ้น 52,387 คน หดตัวร้อยละ 86.55

ทั้งนี้ หวังว่าสถานการณ์การควบคุมโรคของทางการจีนน่าจะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม หากจีนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์ หรืออย่างช้าที่สุดภายในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม สถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในตอนนั้นคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นเป็น 900,000 คน หรืออาจมากถึง 1.4-1.5 ล้านคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งภาครัฐ ต้องเตรียมการรับมือให้พร้อม โดยเฉพาะ ททท. ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้ได้จำนวนใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปี ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พร้อมเสนอมาตรการเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น มาตรการฟรีวีซ่า หรือไม่ต้องขอวีซ่า เมื่อเข้าไทยให้กับนักท่องเที่ยว 2 ตลาดใหญ่ คือจีนและอินเดีย รวมทั้งมาตรการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวถึง 04.00 น. ที่ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และกำลังให้ ททท. ลงพื้นที่สำรวจความเห็นจากผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย เพื่อสรุปผลความต้องการและเดินหน้า.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”