เพชรบุรี 12 ก.พ.-ตำรวจพบพิรุธ หลังเจ้าของบ้านแจ้งความว่าถูกคนร้าย 5 คน ปล้นบ้าน แต่จากการตรวจหาร่องรอยโจร กลับพบสิ่งผิดกฎหมายในบ้านหลายรายการ ขณะที่ลูกชายให้ปากคำไม่ตรงกับแม่
เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก จังหวัดเพชรบุรี รับแจ้งจากกำนันตำบลกลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ว่ามีเหตุคนร้ายจำนวน 5 คนสวมหมวกไอ้โม่ง เข้าปล้นทรัพย์ที่บ้านหนองตาฉาว หมู่ 2 ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
สอบสวนเจ้าของบ้านคือ นางน้ำฝน ทรัพย์บัว อายุ 40 ปี แจ้งกับตำรวจว่า ผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 5 คน ใส่หมวกไหมพรมคลุมปิดบังใบหน้า 4 คน อีกคนไม่ได้สวม มาพร้อมด้วยอาวุธปืนยาว คนละ 1 กระบอก ได้พังประตูบ้าน เข้ามาก่อเหตุเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ซึ่งในขณะนั้นนางสาวน้ำฝนอยู่ในบ้านกับลูกชาย วัย 17 ปี และลูกสาววัย 9 ขวบ
นางน้ำฝน เล่าต่อว่าคนร้ายบังคับให้ตนคว่ำหน้าและทำร้ายร่างกาย เพื่อบังคับให้ถอดทอง สำหรับทรัพย์ที่หายไปประกอบด้วยเงินสด 20,000 บาท สร้อยทองคำ เส้นละ 1 บาท 4 เส้น สร้อยข้อมือ เส้นละ 1 บาท 1 เส้น แหวน 6 วง วงละ 1 สลึง รวมเป็น 1.5 บาท กุญแจรถยนต์ 2 ดอก นาฬิกา 2 เรือน และปืน 11 มม. 1 กระบอก จากนั้นคนร้ายได้ใช้เชือกฟางมัดมือตนแล้วหลบหนีไป โดยตนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ขับออกไป
ระหว่างให้ปากคำ ผู้กำกับ สภ.ท่าไม้รวก สังเกตพบความผิดปกติ ข้อพิรุธ และน่าจะมีเงื่อนงำ เพราะเจ้าของบ้านแจ้งว่ามีการเข้าปล้นเมื่อเวลา 05.00 น. แต่มาแจ้งความตอนเที่ยงวัน และไม่แจ้งผ่าน 191 แต่กลับโทรมาแจ้งทางมือถือผู้กำกับ รวมถึงมีการล้างบ้านก่อนที่ตำรวจจะเข้ามา และเมื่อตรวจสอบภายในบ้านพบสิ่งของผิดกฎหมายหลายรายการ นอกจากนี้การให้ปากคำของลูกชายวัย 17 ปี ที่บอกกับตำรวจว่า กลับมาบ้านตอน 05.00 น. ซึ่งตรงกับเวลาที่ฝ่ายแม่คือนางน้ำฝน แจ้งกับตำรวจว่าโดนปล้นเวลานั้น และรถที่ลูกชายนางสาวน้ำฝนตรวจสอบพบว่าใช้ป้ายทะเบียนปลอม
เมื่อพบความผิดปกติหลายอย่าง ผู้กำกับได้สั่งการให้ตรวจสอบภายในบริเวณบ้านอย่างละเอียด จนได้พบอุปกรณ์การเสพยาหลายชนิดจำนวนมาก เศษยาไอซ์ที่ติดอยู่ในถุงจำนวนหลายถุง และยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลำกล้องปืน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ปืนอีกหลายรายการ กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 นัด และยาบ้า 1 เม็ด
เจ้าหน้าจึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อนำตรวจสอบพร้อมสอบสวนและตรวจหาสารเสพติดในตัวนางน้ำฝน เพิ่มเติม เพื่อความชัดเจนทั้งในเรื่องการโดนปล้น และสิ่งของผิดกฎหมายที่พบในบ้านต่อไป.-สำนักข่าวไทย