ทำความรู้จักเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางไวรัสระบาด

อู่ฮั่น 28 ม.ค.- อู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน มีประวัติเก่าแก่มานานกว่า 3,000 ปี ขณะนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะต้นตอเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดมาตั้งแต่เดือนก่อน 


เมืองอู่ฮั่นมีประชากรกว่า 11 ล้านคน มากที่สุดในภาคกลางของจีนและมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโกระบุว่า สะพานช่วงยาวครึ่งหนึ่งของโลกและทางรถไฟความเร็วสูงร้อยละ 60 ของจีนล้วนมาจากมันสมองการออกแบบของชาวอู่ฮั่น และด้วยความที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมมายาวนานจึงมีคนต่างเมืองเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นเผยว่า ประชากร 5 ล้านคนจากทั้งหมด 11 ล้านคนเป็นคนต่างเมือง 

สภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่กลางประเทศทำให้อู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางการคมนาคมสำคัญของจีน มีสถานีรถไฟใหญ่ 3 แห่ง ท่าเรือหลายแห่ง ท่าอากาศยาน 1 แห่ง และเป็นจุดแวะเทียบท่าสำคัญของบรรดาเรือสำราญที่ล่องในแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายยาวที่สุดในเอเชียและยาวเป็นอันดับสามของโลก นอกจากนี้อู่ฮั่นยังเป็นศูนย์กลางการการแข่งกีฬาและการจัดงานทางวัฒนธรรม เดิมจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงโอลิมปิกรอบคัดเลือกในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ต้องย้ายไปที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียเพราะไวรัสระบาด 


บริษัทยานยนต์ต่างชาติหลายแห่งเข้ามาลงทุนร่วมกับบริษัทท้องถิ่น ทำให้เมืองอู่ฮั่นมีโรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลกว่า 10 โรง บริษัทผลิตอะไหล่กว่า 500 แห่ง อุตสาหกรรมนี้มีมูลค่าสูงถึง 400,000 ล้านหยวน (ราว 1.78 ล้านล้านบาท) ในปี 2561 และผลิตยานยนต์ได้ประมาณ 1.7 ล้านคัน นอกจากนี้อู่ฮั่นยังรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมไฮเทคอย่างก้าวกระโดด สามารถทะยานขึ้นจากเมืองประสิทธิภาพสูงสุดอันดับ 16 ของจีนในปี 2561 ไปอยู่ที่อันดับ 9 เมื่อปีก่อนตามการจัดอันดับของสถาบันมิลเคนในสหรัฐ อีกทั้งยังดึงดูดการลงทุนจากบริษัทใหญ่ที่สุดในโลก 500 แห่ง (Fortune Global 500) ได้ถึง 230 แห่ง 

ชาวเมืองอู่ฮั่นเองขึ้นชื่อว่าเป็นคนแข็งแกร่ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการจับอาวุธขึ้นต่อต้านราชวงศ์ชิงในปี พ.ศ.2454 นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงประเทศจีนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นสาธารณรัฐจีน จนกระทั่งพรรคคอมมิวนิสต์ชนะสงครามกลางเมืองในปี 2492 และประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนมาจนถึงปัจจุบัน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง