กทม.28 ม.ค.- ผบช.สตม.ย้ำ ตำรวจในสังกัดไม่ติด”โคโรนา”แค่ป่วยเป็นไข้ธรรมดา ด้าน ผอ.กองด่านควบคุมโรคฯ ชี้ผู้ติดเชื้อ 6 รายล่าสุด มาจากเมืองฉงชิ่ง 1 อีก 5 เป็นครอบครัวเดียวกัน มาจากมณฑลหูเป่ย
ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินดอนเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช. สตม.) ร่วมกับนายสุวิช ธรรมเปาโล ผอ.กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และการท่าอากาศยานดอนเมือง ลงพื้นที่เสริมสร้างมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวไทย หลังมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นในประเทศจีน ขณะที่ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ามาทั้งสิ้น 14 ราย โดยมีผู้ป่วย 5 ราย ที่ได้รับการตรวจรักษาจนหาย และส่งกลับประเทศต้นทางไปแล้ว
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ แล้วมีเจ้าหน้าที่ในสังกัด สตม.ป่วยติดเชื้อนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งล่าสุด ส.ต.ต.หญิง นวรัตน์ สีใส ผบ.หมู่ ขาออก ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ป่วยนั้น ได้ส่งตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แล้วพบว่าป่วยเป็นไข้ธรรมดา มีน้ำมูกออกเท่านั้น และปัจจุบันก็หายดีแล้ว ซึ่ง สตม.ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนกำลังและเครื่องมือต่างๆ โดยได้ประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน สำหรับมาตรการคัดกรองเบื้องต้น สตม.ได้จัดช่องทางพิเศษสำหรับชาวจีนไม่ว่าเดินทางมาจากพื้นที่ไหน และต้องผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนซึ่งติดตั้งไว้ ที่ ทอ.ดอนเมือง 3 ทุกๆ ราย และสาธารณะสุขจะนำเครื่องมือเข้าไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ยืนยันว่าทางเราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ พร้อมได้นำแผนการปฏิบัติช่วงการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส หรือเมอร์สในอดีตมาศึกษาและปรับใช้
ด้านนายสุวิช ธรรมเปาโล ผอ.กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และการท่าอากาศยานดอนเมืองกล่าวว่า หลังมีรายงานยืนยันผู้ป่วยจากเดิม 8 ราย ล่าสุดทางกระทรวงสาธารณะสุข พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 6 ราย ซึ่งทั้งหมดมาลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ พบว่ามี 1 รายเดินทางมาจากเมืองฉงชิ่ง อีก 5 รายเป็นครอบครัวเดียวกัน ได้เดินทางมาจากมณฑลหูเป่ย โดยการที่ผู้ป่วยเหล่านี้สามารถผ่านด่านคัดกรองเข้ามาได้นั้นเนื่องจากยังมีอาการอยู่ในระยะฟักตัวและไม่มีไข้ ก่อนเข้ามาป่วยในไทย แต่ยืนยันว่าผู้ป่วยทั้งหมดได้เข้ารักษาเรียบร้อยแล้ว และมีอาการไม่รุนแรง อีกทั้งผู้ป่วยในระยะฟักตัวจะยังไม่สามารถแพร่เชื้อได้ เพราะเชื้อจะยังไม่แข็งแรง สำหรับมาตรการเฝ้าระวัง หากพบผู้ป่วยต้องสงสัยเจ้าหน้าที่จะมอบบัตร’เฮลล์บีแวร์การ์ด’ ซึ่งจะระบุเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1422 เพื่อให้ติดต่อแพทย์ที่ใกล้สุด หากพบว่ามีอาการป่วยเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ทาง สตม.ซึ่งมีข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ จะติดต่อญาติพี่น้องและคนใกล้ชิดผู้ป่วย รวมถึงผู้โดยสาร 2 แถวหน้า และ 2 แถวหลัง โดยนำข้อมูลการเข้าพักจาก ตม.จังหวัด และประสานให้สาธารณะสุขจังหวัดเข้าตรวจสอบหาเชื้อโรคภายใน 14 วัน.-สำนักข่าวไทย