กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – กรมวิชาการเกษตรพัฒนากล้วยน้ำว้าสายพันธุ์ใหม่ “สุโขทัย 1” ให้ผลผลิตสูง เนื้อละเอียดเหนียว รสชาติหวานไม่อมเปรี้ยว คุณค่าทางโภชนาการเป็นเลิศ
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย กรมวิชาการเกษตรศึกษาหาสายต้นหรือพันธุ์กล้วยน้ำว้าที่ดีมีคุณภาพ เพื่อปรับปรุงพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์ใหม่มีลักษณะดีเด่นให้ผลผลิตสูงมีคุณภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าพันธุ์การค้า เป็นที่ยอมรับของเกษตรกรและผู้บริโภค เพื่อเป็นพันธุ์ทางเลือกสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ ระหว่างปี 2547 -2554 ได้คัดเลือกสายต้นหรือพันธุ์กล้วยน้ำว้าจากแปลงรวบรวมและอนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยของศูนย์ฯ ใช้เกณฑ์การคัดเลือกคือ มีจำนวนหวีต่อเครือไม่ต่ำกว่า 7 หวี เนื้อแน่น สีเนื้อขาวนวลถึงเหลือง รสชาติหวาน คุณภาพการบริโภคดี ผู้บริโภคยอมรับสูง ซึ่งสามารถคัดเลือกไว้ 7 สายต้น นำไปปลูกเปรียบเทียบสายต้น และคัดเลือกสายต้นดีเด่น 2 สายต้น ต่อมาปี 2558-2560 นำไปปลูกทดสอบที่ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเลย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่มีสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกัน พบว่ากล้วยน้ำว้าสายต้น สท.55-4 เจริญเติบโตได้เร็ว ต้นแข็งแรง ผลผลิตเฉลี่ยน้ำหนักเครือและจำนวนหวีต่อเครือสูงสุดทั้ง 3 สถานที่ผลิต ที่สำคัญมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ วิตามินบี 3 และโพแทสเซียมากกว่าพันธุ์การค้า ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดตรงกับวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงพันธุ์
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัยตั้งชื่อกล้วยน้ำว้าพันธุ์ใหม่ ว่า “กล้วยน้ำว้าสุโขทัย 1” ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ ให้ผลผลิตสูง น้ำหนักเครือ 16.1 กิโลกรัม สูงกว่ากล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง ซึ่งเป็นพันธุ์การค้าให้ผลผลิต 13.7 กิโลกรัม จำนวน 9 หวี/เครือ สูงกว่ากล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง ซึ่งให้จำนวน 8 หวี/เครือ ลักษณะผลค่อนข้างป้อมกลมและใหญ่กว้าง 3.8 เซนติเมตร และยาว 14 เซนติเมตร ใหญ่กว่าพันธุ์การค้า เนื้อผลทั้งดิบและสุกมีสีครีมอ่อน เนื้อละเอียดเหนียว และมีรสชาติหวานไม่อมเปรี้ยว
จากการสำรวจพื้นที่ปลูกกล้วยของไทยมีประมาณ 481,639 ไร่ ในจำนวนนี้มีพื้นที่ปลูกกล้วยน้ำว้ามากที่สุด 328,456 ไร่ กล้วยไข่ 63,233 ไร่ กล้วยหอม 62,525 ไร่ และกล้วยอื่น ๆ ประมาณ 27,425 โดยพื้นที่ปลูกกล้วยน้ำว้าจะปลูกมากที่สุดในเขตภาคเหนือ แม้พื้นที่ปลูกกล้วยน้ำว้าจะมากที่สุด แต่ขาดพันธุ์ดี การพัฒนาสายพันธุ์ “สุโขทัย 1” จะเพิ่มมูลค่าของผลผลิตและเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัยมีแปลงแม่พันธุ์กล้วยน้ำว้าพันธุ์สุโขทัย 1 พร้อมขุดแยกหน่อได้ปีละ 2,000 – 3,000 หน่อ ใช้ปลูกในพื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ โดยปี 2562 สามารถขุดแยกหน่อได้ประมาณ 2,000 หน่อ ใช้ปลูกในพื้นที่ 20 ไร่ เกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-5567-9085-6. – สำนักข่าวไทย