“มนัญญา” เห็นใจลูกจ้างกรมวิชาการเกษตรถูกเลิกจ้าง

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – “มนัญญา” เห็นใจลูกจ้างกรมวิชาการเกษตรถูกเลิกจ้าง ลั่นอธิบดีฯ ต้องเร่งแก้ไขไม่ให้กระทบภารกิจหลักและจัดปริมาณงานให้สมดุลกับงบประมาณ 


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่ต้องกำหนดปริมาณงานให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับ การที่ถูกตัดงบประมาณกว่า  600 ล้านบาทนั้น เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภารกิจหลัก รวมทั้งต้องเลิกจ้างลูกจ้างตามสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรทั้ง 8 เขต รวมถึงศูนย์วิจัยฯ ระดับจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งได้ย้ำให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน

ทั้งนี้ ในการประชุมพิจารณางบประมาณปี 2563 ของสภาผู้แทนราษฎรนั้น กรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเรื่อง ราคาเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมวิชาการเกษตรที่สูงกว่าราคาซื้อมากจนเป็นสาเหตุให้ตัดงบลงกว่า 40% จากที่ขอไปกว่า 1,200 ล้านบาท โดยได้ทำหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วว่ามีการทุจริตหรือไม่


“รู้สึกเห็นใจลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างหรือลดเงินเดือนลงถึงครึ่งหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่ต้องแก้ไข รวมทั้งบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับให้สอดคล้องกับปริมาณงาน โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักและการบริการประชาชน” น.ส.มนัญญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยสอบถามไปยังสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตต่าง ๆ และศูนย์วิจัยฯ หลายจังหวัดได้รับข้อมูลจากข้าราชการว่า งบประมาณที่ถูกตัดลดนั้นส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักและการบริการประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยภารกิจตามแผน ประกอบด้วย งานวิจัยด้านวิชาการเกษตร การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และต้นพันธุ์พืชที่มีคุณภาพ การให้บริการด้านการรับรองมาตรฐานและการตรวจสอบสถานจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตร รวมถึงโครงการพระราชดำริต่าง ๆ 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งเข้าสู่ปีงบประมาณ 2563 แต่งบประมาณยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ นั้น ทางกรมวิชาการเกษตรได้จัดสรรเงินมาให้จำนวนหนึ่ง โดยประมาณการณ์จากงบที่ใช้ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเงินที่ได้รับจัดสรรบางส่วนหมดหรือใกล้หมดแล้ว เช่น งานตรวจสอบแปลงเพื่อออกใบรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) งานออกใบรับรองมาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ (GMP) แก่โรงคัดบรรจุเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการใช้สำหรับส่งออกสินค้าเกษตรไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ขณะนี้มีหลายรายรออยู่ แต่ดำเนินการช้า เนื่องจากจำนวนบุคลากรส่วนที่เป็นลูกจ้างลดลงและงบประมาณสำหรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่เหลือน้อยมาก หากไม่ได้รับการแก้ไขอาจกระทบต่อการให้บริการประชาชนและไม่เพียงพอใช้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 วันที่ 30 กันยายน 


ก่อนหน้านี้ น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของกรมวิชาการเกษตรลงกว่า 40% ว่า เป็นการตัดลดงบประมาณการดำเนินงาน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงบลงทุนในการจัดซื้อครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณโดยปรับแผนให้มีความสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ โดยให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทบทวนและจัดลำดับความสำคัญรายละเอียดของงานโดยเฉพาะงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมวิชาการเกษตร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  งานด้านบริการที่มีผลกระทบต่อประชาชนและการส่งออก เช่น การตรวจรับรองแหล่งผลิตพืช (GAP) โรงงานแปรรูป  โรงรม (GMP)  การตรวจสอบปัจจัยการผลิต  ศัตรูพืช  และออกใบรับรองบริการวิชาการด้านพืช การผลิตเมล็ดพันธุ์ดี ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล เพื่อจำหน่ายและจ่ายแจกให้แก่เกษตรกร เช่น มันสำปะหลัง  ข้าวโพด  รวมทั้งพืชตระกูลถั่วที่ใช้น้ำน้อย งานบริการทั้งหมดนี้จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด  ส่วนงานอื่น ๆ ให้พิจารณาปรับลดปริมาณงานตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับ  

ทั้งนี้ ในการพิจารณางบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 9 มกราคม คณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สภาผู้แทนราษฎรได้ปรับลดงบประมาณของกรมวิชาการเกษตรที่เสนอไป 1,277 ล้านบาท เหลือ 635 ล้านบาท หลังพบข้อผิดปกติการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสำนักงบประมาณเเจ้งว่าค่าจัดซื้อเพียง 17,000 บาท แต่กรมวิชาการเกษตรใช้วิธีเช่าเครื่องละ 60,000 บาทต่อปี ระยะเวลา 5 ปี รวมเป็น 300,000 บาทต่อเครื่อง กรรมาธิการยังระบุว่าเดิมในเอกสารงบประมาณ กรมวิชาการเกษตรชี้เเจงว่าค่าเช่าคอมพิวเตอร์เครื่องละประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน จึงเชิญอธิบดีกรมวิชาการเกษตรมาซักถามและให้กลับไปทบทวนใหม่ ต่อมากรมวิชาการเกษตรแก้ไขเอกสารแล้วส่งกลับมาเหลือเพียงเครื่องละ 800 บาทต่อเดือน โดยให้เหตุผลว่าเอกสารชุดเเรกที่ส่งมาให้คณะกรรมาธิการนั้นผิดพลาด จึงมีข้อสังเกตว่าตั้งงบหลอกกรรมาธิการหรือไม่ จนเป็นสาเหตุตัดลดงบประมาณของกรมวิชาการถึง 642 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย