กรุงเทพฯ 21 ม.ค.- นายวีรวัจน์ บัวทอง รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA และ นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในข้อตกลงครั้งสำคัญเพื่อรวมโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเดลต้าในประเทศไทยบนแอปพลิเคชัน MEA EV ที่พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่คลองเตย
รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้นำการขับเคลื่อนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนวิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร มีการเตรียมความพร้อมรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาทดแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคตอันใกล้อย่างต่อเนื่อง โดยการลงนามกับบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของการยกระดับความสะดวกในการเข้าถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทย โดย MEA และ เดลต้าได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคในการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้ากับเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MEA การพัฒนา MEA EV application อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่บ้านหรือสำนักงาน การเลือกใช้อุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้าแบบต่าง ๆ และการติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างประหยัดและปลอดภัย โดย MEA เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านระบบไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของเดลต้าอีกด้วย
พร้อมกันนี้ นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดลต้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ในวันนี้ เพื่อเสนอวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการเชื่อมต่อกับนวัตกรรมให้กับคนไทย ด้วยความสามารถหลักของเดลต้าในด้านการแปลงและจัดการพลังงาน ช่วยให้เราพัฒนาโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและการปฏิบัติงานระดับสากล ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และไทย สามารถเพลิดเพลินใช้งานเครื่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพของเราได้ง่าย
การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งาน MEA EV application สามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้าในประเทศไทยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเดลต้าได้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charger) และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charger) ในสถานที่สาธารณะหลายแห่งทั่วประเทศไทย รวมถึงร้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ นิคมอุตสาหกรรม สำนักงาน สถาบัน และศูนย์การศึกษาต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้งาน MEA EV application สามารถค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชันทันที รวมถึงการชำระเงินค่าบริการด้วยสมาร์ทโฟนได้ทั่วประเทศ การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จ การคำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต โดยสามารถดาวน์โหลด MEA EV application ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้ที่ https://goo.gl/F6C5bV นอกจากนี้ MEA และเดลต้า จะทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเครื่องอัดประจุไฟฟ้าตามสถานที่สาธารณะและโซลูชันการจัดการของเดลต้าจากเซิร์ฟเวอร์ของ MEA (ตามมาตรฐาน OCPP) ไปยัง MEA EV เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้ MEA และเดลต้ามุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ภายในประเทศไทยหันมาเลือกใช้การคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายการส่งเสริมให้ใช้แบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle : BEV) ของรัฐบาลไทย และการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) ของคนไทย รวมถึงส่งเสริมการผลิต การวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ ตามแผนงานด้านพลังงานของรัฐบาลที่ตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.2 ล้านคัน (รวม PHEV และ BEV) วิ่งบนท้องถนนภายในปี พ.ศ. 2579.-สำนักข่าวไทย