บล.ทรีนีตี้ชี้หุ้นไทยผันผวน 1,480-1,700 จุด

กรุงเทพ ฯ 21 ม.ค. – บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้คาดหุ้นไทยปีนี้ผันผวน มองกรอบดัชนี 1,480-1,700 จุด ผลพวงจากเศรษฐกิจยังชะลอตัว ภาระหนี้ท่วมโลก ชี้เข้าสู่ทศวรรษแห่งความเสี่ยง แนะจัดพอร์ตให้ชนะ หุ้น 30 % ตราสารหนี้ 30 % ทองคำ 10 % เงินสด 20 % 


นายวิศิษฐ์  องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนปี 2563 เข้าสู่ทศวรรษแห่งความเสี่ยง (ปี 2020-2030) เป็นยุคที่นักลงทุนหาผลตอบแทนได้ยากขึ้น จากภาวะหนี้สินที่เพิ่มขึ้นในทุกประเทศ ผลพวงจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) ขณะที่เศรษฐกิจโลกและ เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะเติบโตต่ำและเงินเฟ้อต่ำ โดยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอาจฟื้นตัว เนื่องจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีนสงบลงชั่วคราว แต่ปัจจัยที่จะหนุนให้มีการเติบโตยังมีอยู่อย่างจำกัด นโยบายทางการเงินเริ่มจำกัดลง เพราะดอกเบี้ยต่ำมาก และระดับหนี้สาธารณะหลายประเทศสูงขึ้น  ส่วนเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะขยายตัว 2.8-2.9% ความหวังอยู่ที่การใช้จ่ายลงทุนของภาครัฐ หลัง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ผ่านสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังมีปัจจัยลบคือเงินบาทที่แข็งค่ามาก ทำให้ไทยสูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน 

ส่วนทิศทางดัชนีหุ้นไทยปีนี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวค่อนข้างมาก โดยกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,480-1,700 จุด โดยดัชนีเป้าหมายที่ 1,700 จุด อิงอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิที่ 15.4 เท่า และประมาณการกำไรต่อหุ้นที่ 110 บาท  โดยตลาดหุ้นไทยมีแรงจูงใจเรื่องเงินปันผลที่ดีเฉลี่ย 4-5 %  ทำให้คาดการณ์ว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นในช่วง 4 เดือนแรก ตามฤดูกาลของหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะปรับตัวย่อลงหลังจากนั้น ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีทิศทางหุ้นไทยจะแกว่งตัวตามพัฒนาการของกำไรบริษัทจดทะเบียน ซึ่งก็อิงกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ 


สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้จัดพอร์ตโดยลงทุนในหุ้น 30 % เป็นหุ้นไทย 10 % เน้นหุ้นปันผลสูง หุ้นต่างประเทศ 20 % โดยเฉพาะหุ้นอาเซียน เช่น หุ้นจีน เวียดนาม ลงทุนตราสารหนี้ 30 % แบ่งเป็นตราสารหนี้ไทย 10 % ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20 % ลงทุนทองคำ 10 % ลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 10 % ที่เหลือถือเงินสด 20 % เพื่อเป็นจังหวะในการซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่ราคาปรับตัวลงมา

ส่วนเม็ดเงินต่างชาติ คาดว่าปีนี้ยังเป็นการไหลออกสุทธิ โดยต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า 3,000 ล้านบาทตั้งแต่ต้นปี 2563 และ ขายสุทธิกว่า 500,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติลดลงเกือบต่ำสุดในรอบ 15 ปี อยู่ที่ 28.2 % ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม ซึ่งต่างชาติจะเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ราคายังต่ำกว่าที่เป็นจริง โดยจะพิจารณาหุ้นทั้งภูมิภาค ไม่ใช่ประเทศใดประเทศหนึ่ง ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศที่มียอดซื้อสุทธิกว่า 500,000 ล้านบาท ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าหลังจากนี้จะชะลอลง หลังสิทธิพิเศษทางภาษีกองทุน LTF หมดลง และผันไปเป็นกองทุน SSF ทำให้เม็ดเงินลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันเม็ดเงิน LTF ในระบบมีอยู่ 380,000 ล้านบาท จะทยอยหมดอายุภายในปี 2568 ถ้าไม่มีกองทุนอื่นมาทดแทน.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี