ลพบุรี 12 ม.ค.-ผลพวงจากภัยแล้งรุนแรงในปีนี้ ทำให้แม่น้ำบางขามในจ.ลพบุรีแห้งสุดในรอบ 50 ปี กรมชลประทานเร่งบริหารจัดการน้ำ ไม่ให้กระทบการผลิตน้ำประปา ติดตามจากรายงาน
แม่น้ำบางขาม ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญอีกหนึ่งสายของจังหวัดลพบุรี แล้งปีนี้จะเห็นว่าปริมาณน้ำน้อย มีบางช่วงแห้งขอด ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ําประปา ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำหวั่นขาดน้ำอุปโภคบริโภค
ชาวบ้านตำบลมหาสอน อำเภอบ้านหมี่ เล่าว่า น้ำในแม่น้ำบางขามแห้งเร็วกว่าทุกปี นับว่าแล้งสุดในรอบ 50 ปี กระทบต่อการผลิตน้ำประปาของชาวบ้าน 4 ตำบล ในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่เดือดร้อนหนักกว่า 4,000 ครัวเรือน ระดับน้ำในแม่น้ำบางขามเพิ่งจะเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังกรมชลประทานสูบน้ำจากคลองชัยนาท – ป่าสัก มาช่วยวันละ 2 แสนลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำมาเติมในแม่น้ำบางขาม 20% ของความจุแล้ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงแล้งนี้ได้
จากแผนการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/63 ที่โครงการส่งน้ำบำรุงรักษามโนรมย์ สำนักชลประทานที่ 10 ต้องสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาเติมคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก วันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากค่าน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น มีความจำเป็นต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยามาควบคุมค่าความเค็ม ส่งผลให้น้ำที่ไหลเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ต่ำกว่าแผนที่กำหนด กรมชลประทานจึงผันน้ำจากเจ้าพระยามาสู่ประตูระบายน้ำมโนรมย์ และสูบเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก วันละ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปา อุปโภคบริโภค
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า กรมชลประทานได้ทำตามแผนการบริหารจัดการน้ำ ตามนโยบายรัฐบาลเป็นเวลา 6 เดือน โดยเฉพาะ 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา จากจำนวนน้ำ 5 พันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร ต้องจัดการในช่วงแล้งนี้ 4 พันล้านลูกบาศก์เมตร และต้องสำรองน้ำต้นฤดูฝน ให้ได้ประมาณ 2 พันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร มั่นใจน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคแน่นอน
แม้วิกฤติภัยแล้งจะยังไม่คลี่คลาย ทุกภาคส่วนขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่จะต้องมีการควบคุมปริมาณน้ำ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปาอุปโภคบริโภค ให้พ้นวิกฤติแล้งนี้ไปได้.-สำนักข่าวไทย