ลพบุรี 18 มี.ค. – หญิงวัย 57 ปี ฮึดสู้โจรงัดบ้านเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ก่อนใช้ไหวพริบร้องขอชีวิตเอาตัวรอด ตำรวจตามจับได้ทันควัน พบโจรขึ้นบ้านมาแล้ว 3 ครั้ง ต้องยอมตัดใจขายทิ้ง
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีคนร้ายชายสวมกางเกงลายพราง เสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า สวมหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ ในมือถืออาวุธเหล็กปลายแหลม พยายามยื้อยุดฉุดกระชากนางวาสนา อายุ 57 ปี ให้เข้าไปภายในบ้าน เหตุเกิดในซอยศรีละโว้ 3 ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (17 มี.ค.) โดยนางวาสนาพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ และต่อสู้ดิ้นรนเต็มที่ แต่ไม่สามารถสู้แรงคนร้ายได้
จากนั้นคนร้ายลากนางวาสนาเข้าไปในบ้านพัก โดยใช้มีดปลายแหลมข่มขู่ พยายามค้นหาทรัพย์สิน นางวาสนาต้องทำใจดีสู้เสือ อ้อนวอนขออย่าทำร้ายหรือทำอนาจาร หากอยากได้อะไรให้เอาไปเลย จนคนร้ายใจอ่อน ค้นเอาทรัพย์สินเป็นเงินสด 300 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หลบหนีไป
ทั้งนี้ คลิปภาพทั้งหมดลูกสาวของนางวาสนา นำมาโพสต์ลงโซเชียลขอความร่วมมือแจ้งเบาะแสคนร้ายปีนเข้าบ้าน ท้ายโพสต์ยังตัดพ้อ “นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะโดนขึ้นบ้านมา 3 รอบ แจ้งตำรวจไปไม่ได้เรื่อง แถมโจรยังย่ามใจมาขึ้นบ้านอีกครั้ง ครั้งนี้แม่เกือบไม่รอด”
ผ่านไปไม่ทันข้ามวัน ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี สามารถตามจับตัวนายบริรักษ์ อายุ 30 ปี คนร้าย ได้ที่บ้านพัก เบื้องต้นนายบริรักษ์ รับสารภาพว่าบุคคลในวงจรปิดคือตนเองจริง โดยตนทำงานเป็นลูกจ้างร้านหมูกระทะใกล้ที่เกิดเหตุ แอบดูความเคลื่อนไหวในซอยดังกล่าว พบเป็นซอยเงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนอยู่บ้าน และมีบ้านร้างหลายหลัง อาศัยจังหวะปลอดคนปีนเข้าไปลักของ โดยไม่คิดว่ามีคนอยู่ภายในบ้าน
จากการตรวจสอบประวัติพบพัวพันคดียาเสพติด ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด นายบริรักษ์รับสารภาพเสียงอ่อย พร้อมขอโทษผู้เสียหาย อ้างมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว และมีลูกเล็ก จนนางวาสนาอ่อนไม่เอาความ แต่ด้านคดีซึ่งไม่สามารถยอมความได้ ตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ และเสพยาเสพติด
ด้านผู้เสียหายเล่าว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บ้านถูกโจรกรรม ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน โจรขนของเกลี้ยงบ้าน ครั้งที่ 2 เมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โจรกวาดทรัพย์สินไปได้หลายรายการ แจ้งความแต่ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ จนล่าสุดต้องเผชิญกับโจรจริงๆ กลัวจนจิตตก คิดว่าคราวนี้คงไม่รอดแน่ แต่ทำใจดีสู้เสือ พูดให้โจรผ่อนคลาย อยากได้อะไรก็เอาไป ขออย่าทำร้าย อย่าทำอนาจารตน จนโจรใจอ่อน ยอมปล่อยตนเป็นอิสระ ต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะเรียกสติกลับคืนมาได้
นางวาสนากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอว่า บ้านหลังนี้ซื้อมาด้วยน้ำพักนำแรงของครอบครัว รักและเสียดายมาก ต้องตัดใจประกาศขายเพื่อหนีโจร และเพื่อให้รอดพ้นจากอันตรายรอบด้าน
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี คุมตัวนายบริรักษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะควบคุมตัวนายบริรักษ์ส่งพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย
