ลพบุรี 7 มี.ค.-บรรยากาศให้ข้อมูลทุจริตยาและเวชภัณฑ์ รพ.ทหารผ่านศึก ในวันที่ 2 ค่อนข้างคึกคัก เมื่อมีคนไข้อีก 4 ราย ทยอยเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงาน พร้อมขอใช้สิทธิให้ข้อมูลเปิดโปงขบวนการ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ต้องออกหนังสือเรียก เพื่อกันตัวเองออกจากคดี
วันนี้ (7 มี.ค.68) เวลา 09.00 น. วันที่ 2 ของการสอบปากคำ หาข้อมูลขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ของเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงาน จากคนไข้เครือข่ายสาย 1 ในพื้นที่จัหวัดลพบุรี ซึ่งมีคนไข้ที่ตอบรับหนังสือตามคำเชิญ ของพนักงานสอบสวน ปปป. จำนวน 20 คน โดยคนไข้เหล่านี้เป็นกลุ่มคนไข้จริง ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค ทยอยเดินทางเข้ามา พบพนักงานสอบสวน ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่จากองค์กรทหาร ผ่านศึกส่วนกลาง ตั้งแต่ 08.00 น.0ที่00ผ่านมา
นางสาวพัชนี พูลสุข คนเปิดโปงขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับคนไข้ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานพนักงานสอบสวนสามารถสอบปากคำคนไข้ ในสาย 1 ไปได้เพียง 40 คน วันนี้จึงเหลือ คนไข้ตามหนังสือเชิญอีกจำนวน 20 คน แต่ปรากฏว่าหลังดูข่าว จากสื่อมวลชนเมื่อวานที่ผ่านมาทั้งวัน รู้สึกสบายใจมากขึ้น ว่าจะถูกกันเป็นพยานและไม่ถูกดำเนินคดี จึงเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่ม อีก 10 คน รวม สาย 1 วันนี้จะ ให้ข้อมูล ทั้งหมด 30 คน
อย่างไรก็ตาม หลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าว การเดินทางมาถึงของ “บิ๊กเต่า” และเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวม 4 หน่วยงาน ทำให้คนไข้ ที่อยู่ในเครือข่ายของขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ สายอื่นๆ อีก 6 สาย เริ่มกังวลว่า หากไม่ให้ข้อมูล อาจถูกดำเนินคดี ต้องตกเป็นผู้ต้องหาตามไปด้วย จึงตัดสินใจเข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง และขอให้ข้อมูลโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องออกหนังสือเชิญ เพื่อกันตัวเองออกจากคดี ซึ่งคนไข้ 4 สาย ที่เดินทางเข้ามาด้วยตนเองประกอบด้วย สายเจ๊เอี้ยง, สายสมชาย, สายทินกร และสายป๋าต้อยเจ๊ปู ซึ่งตัวป๋าต๋อยและเจ้ปู ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้วที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ขณะคนไข้หลายคน ที่เดินทางมาให้ข้อมูลในวันนี้ เกิดความเครียดอย่างหนัก หวั่งตนเองจะตกเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ไม่มีเจตนาจะทำผิด แค่ต้องการยามารักษาโรคที่เป็นอยู่หลายโรค หวังให้หายขาด
นางสาวเอ และนางสาวบี นามสมมุติ เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า แม่ของตนอายุ 65 ปี ถูกชักชวนให้ไปรับยาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยอ้างว่ายาที่ได้มา มีคุณภาพมากกว่ายาที่รับจากโรงพยาบาล 30 ประกอบกับแม่มีโรคประจำตัว ทั้งเบาหวาน ความดันและไขมัน ทำงานหนักไม่ได้ ชีวิตครอบครัวยากจน จึงไม่มีความสามารถจะพาแม่ไปรักษาตัวหรือรับยาที่ดีกว่า จึงทำให้แม่ตัดสินใจไปกรุงเทพฯ เพื่อรับยา แต่หลังรับยามาได้และขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางกลับ ยาที่แม่ไปรับกลับถูกคนพามาเอาไป และให้เงินค่ากับข้าวแค่ 1,000 บาท และอ้างว่าจะนำยาดังกล่าวไปให้กับคนที่ไม่มีโอกาสได้รักษา แม่เสียใจมาก จึงไม่ไปรับยาที่กรุงเทพฯ อีกเลย แม้คนชักชวนโทรศัพท์มาตามให้ไปรับยาอีก 3-4 ครั้ง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เมื่อได้รับหนังสือเชิญมาให้ข้อมูลกับตำรวจ ปปป. และมีข่าวเมื่อวานตลอดทั้งวัน ทำให้แม่เครียดหนัก เมื่อคืนนอนไม่หลับ และมีอาการความดันสูง แต่วันนี้ก็ยังอยากจะมาเพื่อให้ข้อมูล เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
กำหนดการเดิม พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำคนไข้เครื่อข่ายสาย 1 ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ที่ตอบรับคำเชิญให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน หรือ 17.00 น. วันนี้ แต่หลังมีคนไข้สมัครใจมาให้ข้อมูลเพิ่ม จึงต้องขยายเวลาออกไปอีก 1-2 วัน.-สำนักข่าวไทย