กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านไป 3 วัน พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงเสร็จแล้ว เหลือเพียงองค์กรอิสระและศาล ซึ่งถือว่าเสร็จช้ากว่าที่ประเมินไว้ แม้จะมีความพยายามขยายเวลา แต่ในส่วนของฝ่ายรัฐบาลจะเร่งให้เสร็จภายในคืนนี้
การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวาระ 2 และ 3 ที่มีทั้งหมด 55 มาตรา ใช้เวลาไปแล้ว 3 วัน 2 คืน รวมกว่า 40 ชั่วโมง
ถกวันแรก ใช้เวลากว่า 15 ชั่วโมง อภิปรายได้เพียง 9 มาตรา งบกลาง 510,000 ล้านบาท ถูกตั้งคำถามมากสุด มองว่ารัฐบาลสำรองเงินมากเกินความจำเป็น ไม่รู้ว่าจัดสรรให้หน่วยงานใดบ้าง บางโครงการใช้งบกลาง ทั้งที่ไม่ได้ฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วน เช่น ซื้อรถถังเกือบ 3,000 ล้านบาท ทั้งที่ควรนำไปแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม
ที่ถูกจับตาและขอให้ปรับลดมากที่สุด คือ กระทรวงกลาโหม ซึ่งฝ่ายค้านขอให้ปรับลด ทั้งการจัดซื้อเรือดำน้ำ ยุทโธปกรณ์ ทั้งยังมีการพาดพิงถึงการตั้งงบเกณฑ์ทหาร ที่สุดก็ผ่านไปได้ หลังกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า แสนยานุภาพทางการทหารจำเป็น
วันที่ 2 ใช้เวลาไม่แพ้กัน แต่ผ่านไปถึงมาตรา 23 การอภิปรายกลายเป็นเวทีซักฟอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเด็นสหรัฐถล่มอิหร่าน ที่อาจสร้างความขัดแย้ง และขอให้มีการปรับ ครม.
งบกระทรวงมหาดไทย มีการแปรญัตติมากสุดกว่า 130 คน แต่มารอบดึกเหลือผู้อภิปรายเพียง 9 คน
แต่มีการประลองกำลังกัน จนเกือบมีปัญหาสภาหวิดล่ม ช่วงลงมติมาตรา 14 กระทรวงเกษตรฯ เหตุฝ่ายค้านขอขยายเวลาอภิปรายในสัปดาห์หน้า แต่องค์ประชุมเหลือ 252 คน สภาฯ เดินหน้าต่อจน 02.00 น.เศษ
ส่วนวันที่ 3 พิจารณางบประมาณรายกระทรวงต่อ ที่ถกมากที่สุดกว่า 4 ชั่วโมง คือ กระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นก็พิจารณาครบทุกกระทรวง เหลือเพียงของหน่วยงานที่ไม่สังกัดกระทรวง คือ องค์กรอิสระและศาล ซึ่งต้องจับตาดูงบประมาณของ กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายค้าน โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ประกาศจะนำทีมอภิปราย โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ จับตาการอภิปรายจะยืดเยื้อไปสัปดาห์หน้า หรือสามารถอภิปรายต่อไปจนจบ. – สำนักข่าวไทย