ขอนแก่น 6 ม.ค. – “ร.อ.ธรรมนัส” ระบุนายกฯ ห่วงภัยแล้ง รุดตรวจเยี่ยมอีสานกลาง แก้ปัญหาน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ลดต่ำถึงขั้นวิกฤติ ต้องนำน้ำก้นอ่างมาใช้ เดินหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ลุ่มน้ำชีมีความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์ภัยแล้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงมอบหมายให้มาตรวจสถานการณ์น้ำ โดยเดินทางมายังเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่แห่งเดียวในจังหวัด โดยสำนักงานชลประทานที่ 6 รายงานว่าปีที่ผ่านมาฝนตกลงอ่างเก็บน้ำน้อย ทำให้ขณะนี้ต้องนำน้ำก้นเขื่อนมาใช้แล้วถึง 95 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำทุกภาคส่วนทั้งสำหรับอุปโภค-บริโภคและทำการเกษตร เนื่องจากปี 2562 เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงและปริมาณฝนต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย สำหรับจังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ 6.8 ล้านไร่ 26 อำเภอ 199 ตำบล จำนวน 617,585 ครัวเรือน ประชากร 1,805,895 คน พื้นที่ทำการเกษตร 4.2 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ชลประทาน 700,683 ไร่ มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 14 แห่ง ลำน้ำสำคัญที่ไหลผ่าน ได้แก่ ลำน้ำชี ลำน้ำเชิญ ลำน้ำพอง ลำห้วยสายบาตร เป็นต้น
สำหรับการแก้วิกฤติแล้งเฉพาะหน้าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อแก้ไขการขาดแคลนน้ำดิบสำหรับผลิตประปาอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ พร้อมประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ ขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค โครงการชลประทานกาฬสินธุ์และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) ของอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในพื้นที่ทุกอ่างฯ เพื่อชี้แจงแผนการบริการจัดการน้ำและย้ำให้ใช้น้ำตามแผน โครงการชลประทานมหาสารคาม โดยเฉพาะอำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ จึงส่งรถติดตั้งเครื่องกระจายเสียงวิ่งประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ สำหรับโครงการชลประทานร้อยเอ็ดและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเสียวใหญ่ประชุมร่วมกับอาสาสมัครชลประทาน เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานของอาสาสมัครชลประทานและแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 พร้อมกำชับให้แจ้งประชาชนรับทราบสถานการณ์อย่างทั่วถึงและขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้ง
ส่วนระยะยาววางแผนเพิ่มศักยภาพการเก็บกักน้ำของจังหวัดขอนแก่น ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2564-2568 ได้แก่ อำเภอแวงน้อยมีโครงการชลประทานขนาดกลางกำลังดำเนินโครงการแก้มลิงบึงละหานนาพร้อมอาคารประกอบ ตำบลละหานนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 6 เริ่มดำเนินการปี 2559 ปัจจุบันมีความก้าวหน้าร้อยละ 99.34 สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ประมาณ 16.88 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 5,000 ไร่ วงเงินงบประมาณ 356.45 ล้านบาท โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านกุดหมากเห็บ ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ ดำเนินการปี 2563-2565 พื้นที่ชลประทานประมาณ 10,300 ไร่ วงเงินงบประมาณ 420 ล้านบาท
โครงการชลประทานขนาดเล็กที่จะดำเนินการ คือ แก้มลิงกุดระหว้าพร้อมอาคารประกอบ ตำบลโนนทอง อำเภอแวงใหญ่ (ขอรับงบประมาณเพิ่มเติม ปี 2563 แก้มลิงสองฝั่งลำน้ำชี) เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 400,000 ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 300 ไร่ วงเงินงบประมาณ 15 ล้านบาท โครงการแก้มลิงหนองกองแก้วพร้อมอาคารประกอบ ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 2 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 1,600 ไร่ วงเงินงบประมาณ 80 ล้านบาท และโครงการแก้มลิงหนองแก่งใหญ่พร้อมอาคารประกอบ ตำบลโนนพะยอม อำเภอชนบท เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 1.70 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 1,400 ไร่ วงเงินงบประมาณ 68 ล้านบาท
ปัจจุบันบริเวณลำน้ำชีบ้านกุดหล่มและบ้านท่าม่วง ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท ได้ก่อสร้างฝายชั่วคราวแกนดินเหนียวผสมซอยซีเมนต์ปิดกั้นลำน้ำชี โดยใช้งบประมาณของ อบต.ศรีบุญเรือง เป็นลักษณะธนาคารน้ำใต้ดินสามารถทดน้ำในลำน้ำชีใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ ในแผนระยะยาวกรมชลประทานจะก่อสร้างประตูระบายน้ำลำน้ำชี บ้านท่าสวรรค์ ตำบลท่าศาลา อำเภอมัญจาคีรี ซึ่งอยู่ถัดลงมาทางตอนล่าง ได้รับค่าศึกษาความเหมาะสมโดยสำนักบริหารโครงการปี 2563 งบประมาณค่าศึกษาประมาณ 300,000 บาท
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องมีแผนระยะยาวในการป้องกันและบรรเทาปัญหาทั้งการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งและอุทกภัยในฤดูฝนของลุ่มน้ำชี ซึ่งครอบคลุม 13 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร ศรีสะเกษ และบรรจบลำน้ำมูลที่อุบลราชธานี พื้นที่ 30.92 ล้านไร่ ความยาวลำน้ำ 1,047 กิโลเมตร ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 11,244 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่การเกษตร 19.48 ล้านไร่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตรอาศัยน้ำฝน จึงต้องเพิ่มพื้นที่ชลประทานมากขึ้น
นายศักดิ์สิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 6 กล่าวว่า ลำน้ำชีมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ในเขต อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ พื้นที่ลุ่มน้ำชีมีขนาดใหญ่ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ทำให้เกิดการผันแปรของปริมาณน้ำฝน ส่งผลให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงฤดูฝน ในทางกลับกันเมื่อมีฝนตกหนักก็ทำให้เกิดน้ำไหลหลากท่วมพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร ส่วนฤดูแล้งก็ขาดแคลนน้ำถึงขั้นวิกฤติ
ปัจจุบันมีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 9 โครงการ ปริมาณน้ำเก็บกัก 184.64 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ชลประทาน 60,600 ไร่ พื้นที่รับประโยชน์ 121,160 วงเงินงบประมาณ 12,137.45 ล้านบาท ได้แก่ อ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพรช ลำสะพุง ลำน้ำชี โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ ประตูระบายน้ำพระอาจารย์จือ ระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา โครงการระบบส่งน้ำบ้านปากจาบ ประตูระบายน้ำบานนา แก้มลิงบึงละหาน และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองไหล
ส่วนปี 2563-2564 มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญที่อยู่ในแผนงานก่อสร้าง 9 โครงการ ปริมาณน้ำเก็บกัก 134.47 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ชลประทาน118,675 ไร่ พื้นที่รับประโยชน์ 37,000 วงเงินงบประมาณ 5,369.58 ล้านบาท ส่วนปี 2563-2565 โครงการพัฒนาแก้มลิงสองฝั่งลำน้ำชี 129 โครงการ หากดำเนินการเสร็จตามแผนจะสามารถป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภาวะน้ำแล้ง-น้ำท่วมได้เป็นบริเวณกว้าง ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ประชาชนและเกษตรกรในลุ่มน้ำชีด้วย.-สำนักข่าวไทย