โตเกียว 6 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ผู้ซึ่งกำลังพยายามเป็นผู้ไกล่เกลี่ยสถานการณ์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านระบุว่า เขามีความกังวลอย่างมากต่อภาวะความตึงเครียดที่กำลังทวีขึ้นในตะวันออกกลาง หลังการสังหารพลตรีกาเซ็ม โซไลมานี ในอิรัก
นายกรัฐมนตรีอาเบะเรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดให้สถานการณ์ และให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความพยายามทางการทูตให้เต็มที่
ญี่ปุ่นกับอิหร่านรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมานานหลายสิบปี แม้เกิดวิกฤตการณ์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกเริ่มจากการปฏิวัติอิสลามอิหร่านในปี 2522 และตามมาด้วยความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์ โดยเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วในช่วงที่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน นายกรัฐมนตรีอาเบะได้เดินทางไปเยือนอิหร่านเพื่อหารือกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คามาเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านและประธานธิบดีฮัสซัน โรวฮานี
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็พยายามรักษาสมดุลระหว่างการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ และการรักษาผลประโยชน์ และความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับอิหร่าน โดยก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายสำคัญของอิหร่าน แต่หยุดการซื้อไปเพื่อให้สอดคล้องกับการคว่ำบาตรของสหรัฐ ขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็เลือกที่จะไม่เข้าร่วมกองกำลังลาดตระเวนทางน้ำที่นำโดยสหรัฐในตะวันออกกลาง แต่จะส่งเครื่องบินและเรือเข้าร่วมในงานหาข่าวกรองแทน และจะไม่ปฏิบัติภารกิจในช่องแคบฮอร์มุซ.- สำนักข่าวไทย