หลักสี่ 24 ธ.ค. – ไปรษณีย์ไทยยกระดับการคัดแยกพัสดุ
นำเครื่อง Cross
Belt Sorter ติดตั้งเพิ่มไปรษณีย์หลักสี่ รองรับธุรกิจ e-Commerce
นายกาหลง ทรัพย์สอาด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานระบบปฏิบัติการ
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ตลอดปี 2562
ยอดสิ่งของฝากส่งผ่านไปรษณีย์ไทยทะลุ 3,000 ล้านชิ้น ทำให้ไปรษณีย์ไทยต้องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง
ด้วยการติดตั้งเครื่องคัดแยกกล่องพัสดุแบบกล่อง หรือ Cross Belt Sorter ที่มีประสิทธิภาพในการคัดแยกสิ่งของได้กว่า 6.5 ล้านชิ้นต่อเดือน ณ
ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ เพื่อรองรับปริมาณงานทั่วประเทศที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2563
นายกาหลง กล่าวว่า การติดตั้งเครื่อง Cross Belt Sorter ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่
นับเป็นเครื่องที่ 2 ต่อจากศูนย์ไปรษณีย์ศรีราชา มีประสิทธิภาพคัดแยกสิ่งของได้กว่า
6.5 ล้านชิ้นต่อเดือน เมื่อรวมศักยภาพของทั้ง 2 เครื่องจะรองรับปริมาณงานได้มากถึง
13 ล้านชิ้นต่อเดือน และปีหน้าจะติดตั้งเครื่องคัดแยกศูนย์ไปรษณีย์อีก 7 แห่ง
รวมเป็น 9 เครื่อง เมื่อใช้งานอย่างเต็มระบบจะสามารถรองรับปริมาณงานได้ 60 ล้านชิ้นต่อเดือน
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยมีแผนติดตั้งเครื่องคัดแยกตามศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยปี 2563
จะติดตั้งเครื่อง Cross Belt Sorter เพิ่มตามศูนย์ไปรษณีย์อีก
7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ ศูนย์ไปรษณีย์นครราชสีมา ศูนย์ไปรษณีย์ลำพูน
ศูนย์ไปรษณีย์ทุ่งสง ศูนย์ไปรษณีย์ขอนแก่น ศูนย์ไปรษณีย์พิษณุโลก
และศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่เพิ่มอีก 1 เครื่อง
ซึ่งยังมีแผนที่จะติดตั้งอย่างต่อเนื่องที่ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศให้ครบ 18
เครื่อง ภายในปี 2566 ที่จะรองรับปริมาณงานกว่า 120 ล้านชิ้นต่อเดือน
สำหรับรูปแบบการทำงานของ Cross Belt Sorter นั้น
นับว่าเป็นเครื่องคัดแยกสิ่งของที่ทันสมัยที่สุดในโลก
เนื่องจากใช้การคัดแยกแบบสายพาน ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและคุณภาพในกระบวนการคัดแยก
โดยใช้ระบบสแกนบาร์โค้ดด้วยเครื่องอ่านรหัสไปรษณีย์แบบ OBR (Optical
Barcode Recognition) สามารถอ่านรหัสไปรษณีย์ 5 มิติ
และการอ่านรหัสไปรษณีย์บนจ่าหน้า
รวมทั้งการลำเลียงโดยสายพานอัตโนมัติเพื่อลงสู่ช่องคัดแยกปลายทางก่อนบรรจุลงในอุปกรณ์สำหรับส่งต่อไปยังที่ทำการปลายทางต่อไปในแต่ละพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
การนำเครื่อง Cross Belt Sorter มาใช้ช่วงนี้เพื่อรับมือปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น
คาดการณ์ว่าจะเติบโตจากปีที่แล้ว 10% สอดรับการสำรวจของ ETDA ที่ระบุว่ามูลค่าตลาดธุรกิจ e-Commerce ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี
และคาดว่าจากนี้จนถึงปี 2565 e-Commerce ไทยจะเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ
22% งานขนส่งโลจิสติกส์จึงเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนการค้าขายออนไลน์
ปี 2562 เป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของไปรษณีย์ไทย
ทั้งเรื่องการยกระดับคุณภาพมาตรฐานบริการ EMS “ส่งเช้าได้บ่าย
ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น” การขยายเวลาให้บริการ 24 ชั่วโมง 365
วัน และแคมเปญ “EMS ท้าส่ง” เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย