ซิดนีย์ 23 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียตำหนิเสียงเรียกร้องให้จำกัดอุตสาหกรรมถ่านหินว่า ไร้ความยั้งคิดและทำลายการจ้างงาน ขณะที่รัฐบาลกำลังถูกวิจารณ์หนักว่าสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีส่วนทำให้ประเทศเผชิญวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรง
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์หลายแห่งในเช้าวันนี้ว่า จะไม่ทำให้ชาวออสเตรเลียจำนวนมากต้องตกงานด้วยการหันเหออกจากอุตสาหกรรมดั้งเดิมของประเทศ จะไม่ทำตามเสียงเรียกร้องที่ไร้ความยั้งคิด ทำลายการจ้างงาน และทำลายเศรษฐกิจ พร้อมกับยืนยันว่า ออสเตรเลียจะสามารถทำตามที่รับปากไว้ในการประชุมสุดยอดสภาพอากาศสหประชาชาติปี 2558 เรื่องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 26-28 จากระดับการปล่อยในปี 2548 ให้ได้ภายในปี 2573 รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างรับผิดชอบในการบริหารประเทศ แก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างหลักประกันว่าเศรษฐกิจจะเติบโตท่ามกลางสภาพอากาศร้ายแรงเช่นในขณะนี้
นายแอนโธนี อัลบานีส ผู้นำพรรคแรงงานที่เป็นฝ่ายค้านตำหนินายกรัฐมนตรีมอร์ริสันว่า ดื้อด้านที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนโยบาย เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ขณะนี้ไม่ปกติ แต่นายมอร์ริสันยังคงไม่ยอมรับฟัง ผู้คนกำลังหวาดกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว หากนายมอร์ริสันมองไม่เห็นก็เป็นเพราะหมอกควันหนาทึบจากไฟป่าบดบังทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว ด้านกลุ่มสิ่งแวดล้อมชี้ว่า เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของออสเตรเลียไม่เพียงพอที่จะทำให้โลกอยู่ในระดับที่ปลอดภัย จำเป็นต้องลดมากกว่านี้ และว่ารัฐบาลอาศัยวิธีนับเครดิตการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามระบบโลกที่ซับซ้อน มากกว่าจะหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก.- สำนักข่าวไทย
