กรมเจรจาฯ พร้อมสานสัมพันธ์การค้าไทย-ยูเค หลังเบร็กซิทมีแววได้ไปต่อ

นนทบุรี 15 ธ.ค. – กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งเดินหน้าสานสัมพันธ์การค้าไทย-ยูเค ปูทางจัดทำเอฟทีเอระหว่างกัน หลังผลเลือกตั้งยูเคชี้เบร็กซิทมีแววไปต่อ พร้อมเตรียมศึกษาประโยชน์ ผลกระทบ และจัดรับฟังความเห็นทุกภาคส่วน เชื่อเป็นโอกาสทางการค้าของผู้ประกอบการไทย


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามผลการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักร (ยูเค) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา พรรคอนุรักษ์นิยมภายใต้แกนนำของนายบอริส จอห์นสัน ได้รับคะแนนเสียงข้างมากในสภา ส่งผลให้นายจอห์นสันได้เป็นนายกรัฐมนตรีของยูเคต่อนั้น และส่อแววว่านายจอห์นสัน จะเร่งเดินหน้านำยูเคออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท (Brexit) ให้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 31 มกราคม 2563 โดยจะมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน (transition period) ให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้มีเวลาปรับตัวจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ก่อนที่ยูเคจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการ

นางอรมน กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งของยูเคครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าประชาชนยูเคส่วนใหญ่ยังต้องการออกจากการเป็นสมาชิกอียู โดยรัฐบาลใหม่ของยูเคคงต้องรีบนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวออกจากอียู เสนอให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติ และเร่งเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าใหม่กับอียูให้เสร็จโดยเร็ว และมีผลใช้บังคับทันวันที่ 1 มกราคม 2564 ก่อนที่ยูเคจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านยูเคจะยังคงเป็นสมาชิกอียูและปฏิบัติตามกฎระเบียบของอียูต่อไป โดยอัตราภาษีและกฎระเบียบที่ยูเคปฏิบัติกับประเทศอื่น ๆ จะยังคงเดิมเช่นปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปี 2563 ทำให้เกิดความแน่นอนทางการค้าและทิศทางในอนาคตของยูเค ซึ่งจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยผลการเลือกตั้งของยูเคส่งสัญญาณเชิงบวก เห็นได้จากค่าเงินปอนด์ที่สูงขึ้นเกือบร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ  


นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านยูเคสามารถเริ่มเจรจาจัดทำความตกลงทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ รวมทั้งไทยด้วย ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะใช้โอกาสดังกล่าวเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับยูเค โดยไทยอยู่ระหว่างจัดทำรายงานทบทวนนโยบายการค้ากับยูเค เพื่อปูทางไปสู่การจัดทำเอฟทีเอระหว่างกันในอนาคต หากทั้ง 2 ฝ่ายมีความพร้อมและเห็นว่าเป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันกรมฯ เตรียมจ้างหน่วยงานวิจัยภายนอก ศึกษาประโยชน์และผลกระทบต่อไทย หากมีการทำเอฟทีเอกับยูเค รวมทั้งจัดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และภาคประชาสังคม เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลเสนอระดับนโยบายตัดสินใจเรื่องการทำเอฟทีเอระหว่าง 2 ประเทศต่อไป

ทั้งนี้ ยูเคเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 20 ของไทย และอันดับที่ 2 จากอียู  (รองจากเยอรมนี) โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-ต.ค.) การค้ารวมมีมูลค่า 5,285.17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก 3,282.10 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น รถยนต์และอุปกรณ์ ไก่แปรรูป รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น และนำเข้า 2,003.07 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ น้ำมันดิบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่ม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี