ตลท. 12 ธ.ค. – บล.ไทยพาณิชย์ชี้การใช้ ROBO ADVISOR ช่วยจัดพอร์ตลงทุนมาแรง โดยเฉพาะการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายการลงทุนสำเร็จ เผยสถิติ 16 ปี ให้ผลตอบแทนชนะตลาด
นายเฉลิมวุฒิ ชมะนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงาน Product and Platform บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยในงานสัมมนาลงทุนไม่หลงทางด้วย ROBO ADVISOR ว่า การลงทุนมีส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือ 1. ต้องลงทุนตามเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายของนักลงทุนมีความแตกต่างกัน มีทั้งเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว เพื่อวัยเกษียณ
2. ต้องมีการกระจายการลงทุน หรือ ASSET ALLOCATION ซึ่งต้องมีการลงทุนทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ เพื่อให้เป้าหมายการลงทุนประสบผลสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันในต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยได้มีการนำโปรแกรมอัจฉริยะ ROBO ADVISOR หรือหุ่นยนต์ เข้ามาช่วยในการวางแผนการลงทุน เนื่องจากหุ่นยนต์สามารถช่วยให้การลงทุนง่ายขึ้น และปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันกับสภาวะตลาด เพราะทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
และจากการเก็บสถิติพอร์ตการลงทุนในประเทศและต่างประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2545-พฤศจิกายน 2561 ของ บล.ไทยพาณิชย์ พบว่า การลงทุนด้วยบริการ ROBO ADVISOR ในพอร์ตการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงประกอบด้วย หุ้น 70% ตราสารหนี้ 15% สินทรัพย์ทางเลือก 15% ปรากฎว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.7% ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนที่คาดหวัง 6-9% ต่อปี และ 11 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนสูงถึง 10.78% มากกว่าผลตอบแทนของดัชนีหุ้นไทย ซึ่งอยู่ที่ 4.80%
“ตอนนี้แนวโน้มการใช้ ROBO ADVISOR มีมากขึ้น เพราะบริการนี้สามารถช่วยนักลงทุนปรับกลยุทธ์ และ นำเสนอแผนการลงทุนที่เหมาะสมตามคำแนะนำของทีมงานผู้เชี่ยวชาญ หรือระบบ AI ซึ่ง บล.ไทยพาณิชย์ได้นำ ROBO ADVISOR เข้ามาให้บริการสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่เปิดบัญชีลงทุนกับ บล.ไทยพาณิชย์ เพียงเริ่มต้น 3,000 บาท ซึ่งให้บริการเหมือนกับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีสินทรัพย์ระดับสูง” นายเฉลิมวุฒิ กล่าว. – สำนักข่าวไทย