“มนัญญา” สั่งกรมวิชาการเกษตรแจงด่วนเลื่อนแบน 3 สาร

กรุงเทพฯ 24 พ.ย. –  “มนัญญา” สั่งกรมวิชาการเกษตรชี้แจงข้อเท็จจริงเสนอขยายเวลาเก็บคืนสารเคมี 3 ชนิด ออกไป 6 เดือน ชี้ประชุมร่วมกันตอนเช้ายังยืนยันจัดเก็บคืนได้หมดภายใน 30 วัน แต่บ่ายกลับคำ ขอเวลาอีก 180 วัน 


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) จะสั่งให้กรมวิชาการเกษตรทำหนังสือมาชี้แจงด่วนที่สุดเกี่ยวกับข้อเสนอขยายเวลาเก็บคืนสารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิดคือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสออกไปอีก 180 วัน หรือ 6 เดือน โดยระบุว่ามีสตอกสารเคมีอีกกว่า 20,000 ตัน ที่ผ่านมาประชุมหลายครั้งกรมวิชาการเกษตรไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ โดยช่วงเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน  ประชุมสารวัตรเกษตรทั่วประเทศกว่า 300 คน ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ครอบครองทุกภาคส่วนส่งมอบสารเคมี 3 ชนิดใน 30 วันตามที่กรมวิชาการเกษตรได้ออกคำสั่งไปก่อนหน้านี้ 


ทั้งนี้ ได้ถามย้ำในที่ประชุมถึง 3 ครั้งว่าสามารถปฏิบัติได้หรือไม่ ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนแจ้งว่า ไม่มีปัญหา แต่บ่ายวันเดียวกันกรมวิชาการเกษตรเสนอที่ประชุมคณะทำงานพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบเกษตรกรหลังเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิดที่มีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานว่า อาจเสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายยกเลิก 3 สารออกไปอีก 6 เดือน 

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการ สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบรับจะให้ผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดเข้าพบ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายและแสดงความห่วงใย โดยย้ำแก้ปัญหาให้เกษตรกรและพิจารณาผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจประเทศอย่างรอบคอบ ซึ่งจะมีผู้แทนสมาคมพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิดเข้าร่วมประชุม 40 คน เพื่อชี้แจงถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร หากประกาศยกเลิก 3 สารมีผลบังคับใช้ทันทีวันที่ 1 ธันวาคมนี้ 


นายสุกรรณ์ กล่าวต่อว่า ความหวังสุดท้ายอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งกำกับดูแลนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ มีหน้าที่ดูแลเกษตรกร จากนั้นวันที่ 26 พฤศจิกายน เกษตรกรประมาณ 5,000 คนจะแต่งชุดดำเดินทางไปรวมตัวหน้ากระทรวงเกษตร เพื่อให้สังคมรับทราบว่าเกษตรกรเดือดร้อน เป็นการรวมตัวอย่างสงบและใช้หลักอหิงสา ไม่ใช่การก่อม็อบดังที่ น.ส.มนัญญา กล่าวหา ขอให้เข้าใจว่า ไม่ใช่เป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคมและไม่ได้ทำเรื่องนี้ให้เป็นปัญหาทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง