ส่งผู้ต้องหาขอศาลนครศรีฯ ฝากขังคดียิงบ้านถูกเด็กเสียชีวิต

นครศรีธรรมราช 11 พ.ย.- ผู้การนครศรีฯ สั่งเร่งจับอีก 3 ยังหลบหนีคดียิงถล่มบ้านถูกเด็กเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจนำตัว 2 ผู้ต้องหาขอศาลฝากขังพร้อมค้านประกันตัว ด้าน “อนุศักดิ์” รับสารภาพทะเลาะกับพ่อเด็ก ระบุเสียใจและขอโทษเหตุบานปลาย ตอนแรกแค่ต้องการยิงขู่


กรณี 5 ผู้ก่อเหตุกระหน่ำยิงบ้านพักของครอบครัว “ยี่สุ่นแซม” ในพื้นที่หมู่ 11 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา กระสุนถูกเด็กหญิง 14 ปี เสียชีวิต ขณะนี้ญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ส่วนคดีเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแล้ว 3 ใน 5 ราย และการสอบสวนทั้ง 3 ราย พบว่าไม่เกี่ยวข้อง 1 ราย จึงปล่อยตัวไป


วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งประชุมความคืบหน้าของคดีและสอบผู้ต้องหา กล่าวว่า ตอนแรกมีการจับกุมตัวไว้ 3 คน แต่เมื่อสอบปากคำอย่างเข้มข้นไม่เกี่ยวข้อง 1 คน จึงปล่อยตัวไป ส่วน 2 คน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คือนายอนุศักดิ์ แดงเดช หรือเท่ อายุ 27 ปี และนายวัชระ วรรณมาศ อายุ 26 ปี สำหรับสาเหตุเบื้องต้นมาจากทะเลาะกันระหว่างพ่อของเด็กกับผู้ก่อเหตุเรื่องเทน้ำหวานให้สุนัข ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีอีก 3 คน คือนายวัฒนา อนันทขาล อายุ 28 ปี นายขุนพล เงินเลี่ยม อายุ 25 ปี และนายวิศณุ นาคคง อายุ 27 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะสามารถจับกุมได้ทั้งหมดแน่นอน

พล.ต.ต.สนธิชัย กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาวุธปืน ซึ่งก่อนจะไปก่อเหตุได้เสพยาเสพติดกันก่อน ส่วนสาเหตุนายอนุศักดิ์ฯ เจ็บแค้นที่ถูกนายวิชัยฯ พ่อของเด็กดุด่าและเตะ 1 ที หลังมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขกินน้ำหวาน จึงไปขอยืมปืนของนายวัฒนาฯ เพื่อจะไปยิงบ้านนายวิชัยฯ จึงอาสาและชักชวนเพื่อนได้ 5 คนไปก่อเหตุ จากเรื่องไม่เป็นเรื่องมาก่อเหตุกันได้เช่นนี้ ก่อนจับได้ 2 หลบหนีไป 3

ด้านนายอนุศักดิ์ กล่าวว่า นายวัชระ เป็นคนชี้บ้านที่เกิดเหตุ และที่ทำไปเพื่อข่มขู่จึงยิงใส่บ้านแบบสะเปะสะปะ ไม่คิดว่าจะเรื่องจะบานปลาย มีผู้เสียชีวิต รู้สึกเสียใจมากและขอโทษทุกคนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งพร้อมจะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอนุศักดิ์ และนายวัชระ ไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อฝากขังและคัดค้านการประกันตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ