พม.8 พ.ย.-พม.ลงพื้นที่ช่วยเหลือ 4 ครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคม ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ในชุมชนย่านเขตจอมทอง กทม.
วันนี้ (8พ.ย. )นายสากล ม่วงศิริ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. 1300 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมและช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทั้งเด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสที่ประสบปัญหาทางสังคม จำนวน 4 ครอบครัว ณ ชุมชนแก้วกลม เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
นายสากล กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. 1300 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่1.กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) 2.กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) โดยศูนย์ บริการคนพิการ สาขาอ้อมน้อย 3. กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) 4.กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร 5.สำนักงานเขตจอมทอง โดยฝ่ายพัฒนาชุมชน และ 6. ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 ช่วง นุชเนตร กรุงเทพมหานคร รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมและช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ที่ประสบปัญหาทางสังคม รวมจำนวน 4 ครอบครัว ได้แก่
1) หญิงชรา อายุ 79 ปี พิการทางการเคลื่อนไหว ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวหลายโรค ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อาศัยอยู่กับลูกสาววัย 55 ปี ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย มีรายได้ไม่แน่นอน
2) เด็กหญิงอายุ 12 ปี พิการทางการเคลื่อนไหวและสติปัญญาตั้งแต่กำเนิด อาศัยอยู่กับแม่ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้าง และน้องชาย ครอบครัวมีฐานะยากจน
3) ชายอายุ 59 ปี พิการทางการเคลื่อนไหว อาศัยอยู่กับภรรยา อายุ 57 ปี ซึ่งไม่ได้ประกอบอาชีพ โดยมีรายได้จากสวัสดิการของรัฐและการช่วยเหลือของบุตรชาย
และ 4) หญิงอายุ 57 ปี มีน้ำหนักตัวกว่า 100 กิโลกรัมและ มีโรคประจำตัวหลายโรค ประกอบอาชีพรับจ้างรัดผ้า มีรายได้เดือนละประมาณ 3,000 บาท อาศัยอยู่กับลูกและหลาน รวมทั้งหมด 9 คน ครอบครัวมีฐานะยากจน
นายสากล กล่าวต่อว่า หน่วยงานสังกัด พม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันประเมินทางสังคมและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ดังนี้
1) มอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
2) นำเรื่องของทั้ง 4 ครอบครัว เข้าพิจารณาเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์
3) การซ่อมแซม ปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสม มั่นคง และถูกสุขลักษณะ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย
4) การให้คำปรึกษาแนะนำสำหรับการเลี้ยงดูบุตรหลานอย่างเหมาะสม
5) การรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
6) การเฝ้าดูแลผู้ป่วยติดเตียง โดย อพม. ในชุมชน
7) การส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่องของเด็กและเยาวชน
8) การให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อการส่งเสริมอาชีพและรายได้อย่างเพียงพอและมั่นคง
และ 9) การให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อขอรับสิทธิสวัสดิการอื่นตามกฎหมาย รวมทั้ง การหาแนวทางร่วมกันในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคม เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป
“หากประชาชนประสบปัญหาทางสังคมหรือพบเห็นผู้ต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม.1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาและความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” นายสากล กล่าว .-สำนักข่าวไทย