อสมท 31 ต.ค.- ดีเอสไอและ ธปท. แนะวิธีสังเกต “แชร์ออมเงิน” หรือ “แชร์ลูกโซ่” โดยรูปแบบมักอาศัยจังหวะประชาชนไม่อยากฝากเงินไว้กับธนาคารนานๆ และมองหาสินทรัพย์รลงทุน หรือ Search for yield ที่ให้ผลตอบแทนสูงมากๆ หากสังเกตก็จะเห็นว่าแชร์ลูกโซ่เหล่านี้ มักมีพฤติกรรมที่เหมือนกัน
กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยแพร่วิธีการหลอกลวงของขบวนการแชร์ลูกโซ่ โดยทั่วไปเมื่อเหยื่อถูกชักชวน ส่วนมากมากจากสื่อโซเชียล ออนไลน์ ขั้นตอนต่อมา มักมีการอ้างถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าร่วมลงทุน ขั้นตอนที่ 3 มีการอ้างหลักฐานผลประโยชน์และเงินจำนวนมากที่ได้รับ ขั้นตอนที่ 4 จะใช้การโฆษณาชวนเชื่อ โดย “คำสำคัญ” ที่อ้างถึง คือ “ลงทุนน้อย แต่ได้ผลประโยชน์สูงในระยะเวลาอันสั้น” แล้วจัดฉากการอบรมสัมมนาแสดงถึงความสำเร็จ ผู้ที่ลงทุนต้องหาสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปวิธีสังเกตแชร์ลูกโซ่ 4 ขั้นตอน คือ 1.มีการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุน 2. เสนอผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น 3.ผู้ที่ชักชวนประกอบธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ได้ประกอบธุรกิจใด แต่ใช้วิธีการหมุนเวียนเงิน และ 4. เมื่อไม่สามารถหาสมาชิกลงทุนเพิ่มได้ ก็จะปิดกิจการหนีไป
เพราะฉะนั้น ควรวิเคราะห์โครงสร้างแผนการลงทุนก่อนว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเกิน 5% ต่อวัน หรือ 10-90% ต่อเดือน ธปท.เตือนว่า ต้องตรวจสอบมีความเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ผลตอบแทนการลงทุนจริงๆ ทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งถ้ามีการหลอกลวงในลักษณะนี้ ถือว่าเป็น “แชร์ลูกโซ่”
ใครที่สงสัยว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ข้างต้น สามารถ โทร.สายด่วน ไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 หรือหาข้อมูลที่เวบไชต์ของดีเอสไอ www.DSI.go.th.-สำนักข่าวไทย
