ซันติอาโก 23 ต.ค.- ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญราของชิลี ประกาศมาตรการชุดใหญ่หวังบรรเทากระแสประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
ประธานาธิบดีปิเญราวัย 69 ปี แถลงจากทำเนียบประธานาธิบดีกลางดึกวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น รับปากว่าจะขึ้นเงินบำนาญขั้นต่ำอีกร้อยละ 20 โดยที่รัฐจะเพิ่มเงินสมทบให้แก่ชนชั้นกลางและสตรี จะเร่งออกกฎหมายประกันการเจ็บป่วยขั้นวิกฤต จะลดค่ายาให้คนจน จะรับประกันค่าแรงขั้นต่ำเดือนละ 480 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,554 บาท) จะแทรกแซงการขึ้นค่าไฟ จะลดความแตกต่างของงบประมาณท้องถิ่นเพื่อนำไปสนับสนุนพื้นที่ยากจน จะใช้อัตราฐานภาษีใหม่ร้อยละ 40 สำหรับผู้มีรายได้เกินเดือนละ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 333,478 บาท) และจะลดเงินเดือนสมาชิกสภาและข้าราชการ
ผู้นำชิลีกล่าวว่า หวังว่าจะพลิกการประท้วงรุนแรงในขณะนี้เป็นโอกาสในการชดเชยเวลาที่เสียไป เร่งเดินหน้ามาตรการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขความไม่เท่าเทียม และขอโทษที่รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาปล่อยให้ปัญหาสะสมมาหลายทศวรรษ จนทำให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับห้าของลาตินอเมริกาเกิดช่องว่างความไม่เท่าเทียมอย่างหนัก ผู้นำชิลีอ่อนท่าทีลงหลังจากถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงที่กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ชิลีกำลังทำสงครามกับผู้ประท้วงใช้ความรุนแรง ทั้งที่ผู้ประท้วงจำนวนมากชุมนุมอย่างสันติเรียกร้องให้หาทางแก้ปัญหาค่าแรงต่ำสวนทางค่าครองชีพสูง ส่วนการที่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาใช้ความรุนแรงตั้งแต่วันศุกร์ประท้วงต่อต้านการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในกรุงซันติอาโกตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม อัยการยืนยันว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน ถูกจับกุม 5,400 คน เพราะการประท้วงลุกลามไปทั่วประเทศ มีการวางเพลิงและปล้นร้านค้า ทำให้ผู้นำชิลีต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายพื้นที่.-สำนักข่าวไทย