ซันติอาโก 22 ต.ค. – ชิลีประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานยามวิกาลหรือเคอร์ฟิว ตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 06.00 น. ต่อเนื่องเป็นคืนที่สามในคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังการประท้วงรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ได้ยืดเยื้อมาถึงวันทำงานและทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 11 คน
การประท้วงในชิลีเริ่มมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว โดยเป็นการประท้วงต่อต้านการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน และต่อมาก็ได้บานปลายกลายเป็นการประท้วงต่อต้านความไม่เท่าเทียมในสังคม และระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมของรัฐบาล เนื่องจากผู้ประท้วงไม่พอใจที่รัฐบาลมุ่งแปรรูปภาคการสาธารณสุข และการศึกษา ในขณะที่บำนาญลดลง แต่ค่าบริการพื้นฐานเพิ่มขึ้น จนทำให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ยิ่งเลวร้าย
นับตั้งแต่เกิดการประท้วงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีผู้ประท้วงถูกจับไปแล้วเกือบ 1,500 คน และนับเป็นความไม่สงบครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษของชิลี จนชิลีต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ทั้งในกรุงซันติอาโก และรัฐอื่นๆ อีก 9 รัฐ จากทั้งหมด 16 รัฐ และล่าสุดประธานาธิบดี เซบาสเตียน ปิเญรา ได้เสนอจะจัดทำสัญญาประชาคม เพื่อร่วมกันหาทางออกและตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง.- สำนักข่าวไทย