พรรคเพื่อไทย 21 ต.ค.-พรรคเพื่อไทย ชี้งดออกเสียงร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ไม่ได้หมายถึงเห็นด้วยกับรัฐบาล แต่อยากให้นำไปปรับแก้ ระบุ “พล.อ.ประวิตร” ไม่ควรนำเรื่อง ผบ.ทบ.เป็นนายกฯ มาพูดทีเล่นทีจริง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงประจำสัปดาห์ โดย น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า เหตุที่พรรคฝ่ายค้านงดออกดเสียงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นั้น ไม่ได้แปลว่าเราสนับสนุนให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ผ่าน แต่อยากให้รัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ.งบฯ ไปปรับแก้ให้ตรงจุดที่ฝ่ายค้านต้องการให้แก้ โดยเฉพาะงบฯ กลางที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ไม่มีคำตอบจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
“ปกติแล้วงบฯ กลางให้อิสระกับนายกรัฐมนตรีในการอนุมัติงบฯ ก้อนนี้ไปใช้ทำอะไรก็ได้ ฝ่ายค้านก็อยากฝากเรื่องนี้ เพราะหากงบประมาณจำนวนมากไปอยู่ในงบฯ กลาง จะตรวจสอบอะไรไม่ได้ เราอยากฝากให้ทุกฝ่ายจับตาการใช้งบฯ กลางของรัฐบาล นอกจากนี้งบฯ ในส่วนของกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยอ้างว่านำไปใช้ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญหาไฟใต้ได้ จึงเป็นการเพิ่มงบฯ ที่ผิดจุด อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การจัดงบฯ และจัดงบประมาณตามความต้องการของประชาชน” น.ส.สรัสนันท์ กล่าว
ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุทำนองหากได้ผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ดี นั้น น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า ในฐานะ ส.ส. เห็นว่ารองนายกรัฐมนตรีไม่ควรจุดประเด็นที่ทำให้เป็นข้อถกเถียงในสังคม เพราะบ้านเมืองขณะนี้เปราะบางเป็นอย่างมาก คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ไม่ควรนำเรื่องแบบนี้มาพูดทีเล่นทีจริง ทั้งนี้แม้ผู้บัญชาการทหารบก จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็คงไม่ได้รับเลือก เหตุเพราะทัศนคติของผู้บัญชาการทหารบก เป็นทัศนคติที่ดูถูกเยาวชน และประชาชน
ขณะที่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ขอบคุณผลโพลที่ให้คะแนนฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องงบฯ ดีกว่าฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะเราติวกันแล้ว ติวกันอีกในการอภิปราย ทั้งนี้ เราตั้งข้อสังเกต 7 ไม่ว่า ได้แก่ 1.รัฐบาลไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงบประมาณ และการทำหน้าที่ของ ส.ส. 2.ไม่โปร่งใสในการจัดทำงบฯ 3.ไม่มีอะไรใหม่ในการจัดทำงบฯ 4.ไม่สมเหตุสมผล งบฯ กลาโหมกว่า 2 แสนล้านบาท และงบฯ ที่เกี่ยวเนื่องกับเครือข่าย 3 ป. 5.ไม่เกิดความเชื่อมั่น 6.ไม่เลิกโทษคนอื่น บอกงบฯ ที่ต้องกู้มาเพราะขาดทุนจำนำข้าว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน และ 7.ไม่ตรงคำถาม การตอบเป็นแกงจืดที่ถูกวางไว้หลายวัน
“เราพบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลเพรี่ยงพร้ำ จะมีการใช้ไซเบอร์วอร์ออกมาโพสโหมโรง ซึ่งพบมากในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่ามา จึงตั้งคำถามว่าสงครามไซเบอร์นี้ รัฐบาลทำสงครามกับใคร ใช้งบประมาณส่วนไหน ใช้งบฯ กลาง หรืองบฯ ลับ ใช้ที่รัฐบาล หรือเอกชน ใช้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ หรือเอกชน หวังว่าจะไม่มองประชาชนเป็นศัตรูที่ต้องทำสงครามด้วย และหวังว่าจะไม่มีการใช้งบฯ กลาง หรืองบฯ ลับมาทำสงครามไซเบอร์นี้ อย่างไรก็ตาม ขอตั้งคำถามว่ามีการตั้งนักรบไซเบอร์ขึ้นมาทำสงครามไซเบอร์นี้จริงหรือไม่ ขอให้ศูนย์เฟคนิวส์เข้ามาตรวจสอบ ทั้งนี้ ทางพรรคจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามการเคลื่อนไหวสงครามไซเบอร์นี้ด้วย” นายอนุสรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย