“แพทองธาร” พาลูกชาย-ลูกสาว เข้าพรรค พท. ก่อนประชุมใหญ่

19 พ.ย. – “แพทองธาร” พาลูกชาย-ลูกสาว เข้าพรรคเพื่อไทย ก่อนประชุมใหญ่วิสามัญครั้งแรก ในฐานะนายกฯ ปลุกใจสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. ทั่วประเทศ ย้ำทุกพื้นที่สำคัญ เล่าสมาชิก ปลื้มประชุมเอเปค ครั้งที่ 2 หลังเคยตาม “อดีตนายกฯ ทักษิณ” ไปเมื่อ 20 ปีก่อน เผยต่างชาติสนใจไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส มีเสถียรภาพ


พรรคเพื่อไทย จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2567 ที่อาคาร BBD ถนนวิภาวดีรังสิต หรือ อาคารวอยซ์สเปซเดิม ซึ่งมีการปรับปรุงเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทยใหม่

โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงในเวลา 14.40 น. พร้อมกับอุ้ม น้องธาษิณ ลูกชาย และ น้องธิธาร ลูกสาว มาด้วย ก่อนไปส่งลูกชายและลูกสาว ที่ห้องพักก่อนและเข้าร่วมการประชุม


จากนั้น 14.50 น. นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับสมาชิก ว่า ดีใจมาก ที่ทราบว่าวันนี้มีการประชุมใหญ่ของพรรค ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากการประชุมเอเปค ที่ประเทศเปรู ซึ่งการประชุมวันนี้ถือเป็นครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี รู้สึกดีใจ หากใครที่เจอวันนี้ก็ขอให้ทักทายตนด้วย และขอบคุณทุกคน ไม่ว่าหัวหน้าพรรค จะมีเวลาเข้ามาที่พรรคมากน้อยแค่ไหน แต่ทุกคนก็ทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชน ตนได้รับเสียงสะท้อนมาเรื่อยๆ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เล่าถึงภารกิจในการเดินทางเยือนต่างประเทศ เป็นเวลา 8 วัน ตั้งแต่ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยได้ไปพูดคุยกับเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคอเมริกา เรื่องการทูตเชิงรุก และการลงทุน ที่เรามองหาเพิ่ม เพื่อไปเน้นย้ำว่าเรามีเสถียรภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติ

ส่วนการเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปค ที่เปรู ถือเป็นการเดินทางไปครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกตนเคยเดินทางไปกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพ่อเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งได้จับมือกับผู้นำทุกประเทศ ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ เลยไม่มีรูปสักใบ ซึ่งตนได้เห็นภาพในอดีตจากสื่อที่นำมาเผยแพร่อีกครั้งตอนลงจากเครื่องบิน ก็ดีใจมากที่ได้เห็นภาพนั้น และในครั้งนี้ได้ไปในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ทำความรู้จักกับผู้นำหลายประเทศ และต่างสนใจ มองว่าไทย เป็นประเทศแห่งโอกาส โดยรัฐบาลก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จึงขอให้ประชาชนให้กำลังใจรัฐบาล ส่วนรัฐบาลเอง ก็ให้กำลังใจประชาชนด้วย และให้ทราบว่าโอกาสมีอยู่ตรงหน้า เรากำลังเร่งมือทำให้ทุกอย่างเป็นรูปธรรม


นอกจาก ส่งเสริมการลงทุนแล้ว ยังได้หารือเรื่องการทำ FTA กับเปรู โดยเฉพาะโครงการท่าเรือชานคาย เมื่อท่าเรือตรงนี้เปิด จะเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ และจะส่งเสริมโครงการแลนด์บริดจ์ของเรา จะได้เห็นศักภาพมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยังได้เล่าถึงความประทับใจ ถึงนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้มีโอกาสนั่งข้างกันระหว่างการประชุมและร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพราะมีการนั่งเรียงลำดับตามตัวอักษร ซึ่งท่านน่ารักมาก และได้สอบถามด้วยความเป็นห่วงว่าหนาวไหม จะถอดเสื้อคลุมให้ ตนจึงหันไปขอบคุณท่าน พร้อมกล่าวว่า “Very Wish Of You” (ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดี) และช่วงหลังจากถ่ายภาพหมู่ร่วมกันกับบรรดาผู้นำ นายโจ ไบเดน ได้พูดติดตลกชวนตน กระโดดลงจากบันไดพร้อมกัน เหมือนเป็นการปล่อยมุขว่าเรามาจับมือกันและกระโดดลงจากบันไดกันเถอะ

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าขอส่งกำลังใจ ให้การเลือกตั้งนายกฯอบจ.อุดรธานี และอีกหลายๆที่ พร้อมขอบคุณมากๆ ที่ทำงานร่วมกันอย่างหนัก ขอย้ำว่าสำคัญมากจังหวัด จะได้มาร่วมมือกันกับรัฐบาล เพื่อช่วยกันพัฒนาทั้งประเทศ และประชาชนทุกคนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป จึงขอส่งกำลังใจให้ทุกพื้นที่ ไปที่ไหนก็บอกเลยว่ารัฐบาลเต็มที่กับเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน พยายามลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และขยายโอกาสไปทุกพื้นที่แน่ๆ

จากนั้นได้เข้าสู่ระเบียบวาระประชุม ทั้งรับรองรายงานการประชุม ร่างข้อบังคับพรรค และ การเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร โดยไม่มีการพิจารณาปรับโครงสร้างพรรค .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล