ศรีสะเกษ 19 ต.ค.- “กอบศักดิ์” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ ของจังหวัดศรีสะเกษ ติดตามการขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนาสู่การสร้างอาชีพ-รายได้ พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียว ชื่นชมการพัฒนา “คันแทนา” ทำประโยชน์ได้คุ้มค่าสูงสุด เล็งยกเป็นหมู่บ้านต้นแบบ
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรกร หมู่ 2 ตำบลดู่ อำเภอปรางกู่ จังหวัดศรีสะเกษ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจากหลายภาคส่วน อาทิ กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนเปิดโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา “เปิดปฏิบัติการกองทุนกล้าไม้” ภายใต้แนวคิด ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง หวังสร้างพลิกฟื้นผืนป่า หนุนสมาชิกกองทุนฯ ทั่วประเทศเป็นพลังสำคัญ
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในอดีตประเทศไทยมีความสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติต้นไม้ป่าไม้ แต่ช่วงหลัง ๆ พื้นที่ป่าไม้ลดลงและมีจำนวนจำกัด ก่อให้เกิดปัญหาดินถล่ม ภัยแล้ง น้ำท่วม ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคอีสานในจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นผลมาจากต้นไม้และป่าไม้ของประเทศลดลง ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ และไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้น เพราะหลายประเทศก็อยู่ในภาวะการณ์เดียวกัน ภาครัฐจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของป่าไม้ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญได้ผลักดันนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าขึ้น โดยการขับเคลื่อน “โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” ซึ่งสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่มีกว่า 13 ล้านคนทั่วประเทศ ถือเป็นพลังสำคัญในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสุข สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และมูลค่าอย่างยั่งยืนให้กับสมาชิกกองทุนฯ
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า วันนี้ที่ลงพื้นที่มาจะเห็นได้ว่าคันแทนาที่บ้านนี้จะไม่ค่อยเหมือนที่ไหนเพราะปกติคันแทนาที่อื่น ๆ จะเล็ก ไม่สามารถจะปลูกอะไร หรือทำประโยชน์อะไรได้มากนัก แต่ที่นี้กว้างใหญ่ มีการปลูกต้นไม้ พืชผสมผสานลงในคันแทนา และยังมีพื้นที่เหลือให้ได้ทำกิจกรรมอื่นอีกมากมาย จึงอยากให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการทำคันแทนาที่เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้านนายนที ขลิบทอง ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า กองทุนเป็นองค์กรภาคประชาชนที่ก่อตั้งมา 18 ปี มีการตั้งกองทุนฯ รวมกว่า 79,000 กองทุนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญเดินหน้าขับเคลื่อนการปลูกต้นไม้ให้เต็มแผ่นดินให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา และยังเป็นการสร้างสินทรัพย์แผ่นดิน คือ ต้นไม้ ที่สามารถเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ วันนี้ทาง สทบ. จะมอบต้นไม้กล้ารวม 1,000 ต้น ประกอบด้วย ต้นยางนา พะยอม มะค่า พะยูง สัก กระถินเทพา และประดู่
ทั้งนี้ หลังจากเปิดโครงการแล้ว นายกอบศักดิ์ เดินทางไปเปิดงานมหกรรมรวมพลคนกองทุน กองทุนหมู่บ้านสร้างชาติ ประรัฐสร้างไทย ที่หอประชุมทีปัวกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อบรรยากาศให้ความรู้และแนวทางของกองทุนหมู่บ้านในอนาคต กับตัวแทนกองทุนหมู่บ้านจากทุกกองทุนในจังหวัดศรีสะเกษ ก่อนเดินทางกลับ.-สำนักข่าวไทย