กรุงเทพฯ 18 ต.ค.-เคทีซีเผยผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก ปีนี้กำไรสุทธิโตร้อยละ
8 อยู่ที่ 4,205 ล้านบาท ขณะที่ยอดลูกหนี้รวมขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 2
ปี ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงขึ้นที่ร้อยละ 10.4 ส่วนหนี้ NPL รวมลงไปอยู่ที่ร้อยละ
1.07
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวถึงผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้ว่า เคทีซีมีรายได้รวม
16,699 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากรายได้ดอกเบี้ย
(รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) เติบโตร้อยละ 7 รายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวร้อยละ
4 และหนี้สูญได้รับคืนเติบโตที่ร้อยละ
2 ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมเท่ากับร้อยละ
34 ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
เคทีซีมีกำไรสุทธิ 4,205 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 79,618 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ
9 ฐานสมาชิกรวม 3.43 ล้านบัญชี เติบโตร้อยละ
6 แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2,460,595 บัตร ขยายตัวร้อยละ
7พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตรวม
51,137 ล้านบาทร้อยละ
10 อัตราเติบโตของปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
9 เดือน อยู่ที่ร้อยละ
10.4 NPL รวม
ลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 1.07 NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ร้อยละ
0.96 สินเชื่อบุคคล
973,356 บัญชี ขยายตัวร้อยละ
5 ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม
28,219 ล้านบาท เติบโตร้อยละ
9 NPL ของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ร้อยละ
0.83
“เคทีซีได้ปรับกลยุทธ์มุ่งสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของจำนวนบัตรและพอร์ตลูกหนี้ตลอด
9 เดือนที่ผ่านมา นอกจากจะทำให้ยอดลูกหนี้รวมมีอัตราเติบโตสูงที่สุดในรอบ 2 ปี
นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 แล้ว
ยังส่งผลบวกให้ภาพรวมปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วง 9 เดือนเพิ่มขึ้น
และเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งสำหรับช่วงท้ายของไตรมาสที่ 3นขณะที่พอร์ตลูกหนี้ยังมีคุณภาพดีต่อเนื่อง
“นายระเฑียร กล่าว
สำหรับไตรมาส 3 บริษัทฯ มีกำไร 1,292 ล้านบาท ปรับตัวลดลงในอัตราร้อยละ
7 เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของพอร์ต
อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดหาบัตรใหม่
รวมถึงในการจัดโปรโมชั่นทางการตลาดเพื่อกระตุ้นให้สมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตร
เป็นผลให้ค่าใช้จ่ายรวมของไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 10 ขณะที่รายได้รวมเติบโตร้อยละ
4
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจ “พิโกไฟแนนซ์” และ“นาโนไฟแนนซ์”รวมทั้งธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน
นั้น ช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา
เคทีซีได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจทั้ง 3 ธุรกิจแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบการให้สินเชื่อ
ก่อนจะมีการปล่อยสินเชื่อจริงในวงกว้าง โดยคาดว่าทั้ง 3 ธุรกิจใหม่จะสามารถเริ่มรับรู้กำไรได้ประมาณ
18-24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ดำเนินธุรกิจจริงและช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนฐานบัตรใหม่ในธุรกิจหลักต่อเนื่อง
ทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล
รวมทั้งเพิ่มงบการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้า -สำนักข่าวไทย