นครนายก 9 ต.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาและเก็บกู้ซากช้างป่าที่พลัดตกเหวนรกทั้ง 11 ตัว โดยวันนี้เดินเท้าสำรวจพบซาก 3 ตัว ถูกน้ำพัดมาติดซอกหิน ห่างจากตาข่ายดักซากช้างจุดแรก 500 เมตร แต่กระแสน้ำแรง ต้องยกเลิกภารกิจ เตรียมเข้ากู้ซากอีกครั้งพรุ่งนี้
ภารกิจกู้ซากช้างป่า 11 ตัว วันนี้ (9 ต.ค.) เริ่มตั้งแต่ 08.00 น. เมื่อเรือส่งถึงฝั่ง ก็ต้องเดินเท้าจากจุดติดตั้งตาข่ายดักช้างที่เจ้าหน้าที่ทำไว้เมื่อวานนี้ ย้อนขึ้นไปทางน้ำตกเหวนรก ขณะที่ระดับน้ำวันนี้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเมื่อวานราว 60 เซนติเมตร บางจุดน้ำลึกไม่สามารถเดินได้ ต้องเดินลัดเลาะขึ้นไปตามแนวเขาสูงชันไม่น้อยกว่า 70 องศา
เจ้าหน้าที่แบ่งการปฏิบัติภารกิจออกเป็น 2 ทีม คือ ทีมติดตั้งตาข่ายดักซากช้างเพิ่มอีก 1 จุด และทีมค้นหาซากช้าง ซึ่งประกอบด้วยสัตวแพทย์และกู้ภัยอุทยานฯ
ด้วยสภาพลำธารคดเคี้ยวและเต็มไปด้วยโขดหิน จึงเป็นอุปสรรคสำหรับการเดิน ซึ่งทั้งต้องลุยน้ำ ไต่เขาสูงชัน บางจุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องผูกเชือกเป็นไกด์ไลน์ให้ทีมปฏิบัติงานยึดไว้ เพื่อความปลอดภัย โดยจุดที่จะติดตั้งตาข่ายดักซากช้าง จุดที่ 2 อยู่ห่างจากจุดแรกราว 400 เมตร ซึ่งจุดนี้ลำน้ำมีสภาพเป็นแอ่ง กว้างประมาณ 15 เมตร ริมน้ำมีลานหินและต้นไม้ใหญ่ จึงเหมาะสมแก่การติดตั้งตาข่ายดักซากช้างขึ้นมาชำแหละ
ส่วนจุดที่คาดว่ามีซากช้างติดอยู่ อยู่เหนือขึ้นไปอีกราว 300 เมตร แต่ไม่สามารถลัดเลาะสวนทางน้ำขึ้นไปได้ จึงต้องลัดเลาะไปตามเขาสูงชัน ขณะที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินตามแนวเขายุ่ยและลื่น ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงไปถึงจุดที่ซากช้างติดอยู่
จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่พบซากช้างถูกน้ำพัดกระจายติดซอกหิน 3 ตัว แต่ละตัวอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร หัวและลำตัวติดอยู่ที่ซอกหิน ในสภาพขึ้นอืด จึงยังไม่ทราบเพศ แม้เจอซากช้างแล้วถึง 3 ตัว แต่ก็ยังไม่สามารถนำขึ้นจากน้ำมาชำแหละได้ เพราะกระแสน้ำแรง เจ้าหน้าที่จึงต้องกลับออกมาวางแผนดำเนินการอีกครั้งพรุ่งนี้ แต่หากยังไม่สามารถนำขึ้นจากน้ำได้ ก็ต้องใช้โดรนนำปูนขาวไปโรย ป้องกันเชื้อโรค
ส่วนการแก้ไขปัญหาช้างป่าพลัดตกน้ำตกเหวนรก วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปมาร์กจุดสร้างเพนียดใหม่ ระยะทาง 700 เมตร เพื่อกำหนดแนวทางเดินให้กับช้าง
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีแผนสร้างสะพานสำหรับช้างและสัตว์อื่นๆ พาดผ่านลำห้วย เพื่อป้องกันความสูญเสีย ทั้งช้าง และทรัพยากรสัตว์ป่าอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต. – สำนักข่าวไทย