อีก 2 เดือน ธพ.เคาะลดชนิดกลุ่มเบนซิน

กรุงเทพฯ 4 ต.ค. – กรมธุรกิจพลังงานศึกษาแผนลดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงจากปัจจุบันมี 9 ชนิด โดยจะลดกลุ่มเบนซิน 1 ชนิด คาดรู้ผลใน 2 เดือนนี้ พร้อมคาดปีนี้ยอดใช้น้ำมันโตกว่าจีดีพี โดยโตถึงร้อยละ 4 เหตุราคาน้ำมันถูกและรถก๊าซฯ เปลี่ยนมาใช้น้ำมัน


นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงนี้อยู่ระหว่างหารือกับโรงกลั่นและผู้จำหน่ายน้ำมันว่าจะปรับลดชนิดน้ำมันกลุ่มเบนซินอย่างไร จะลดลง 1 ชนิด จากปัจจุบันมี 5 ชนิด คือ เบนซิน 95 ,แก๊สโซฮอล์ 91, 95, อี 20 และอี 85 และมีการจำหน่ายกลุ่มดีเซล อีก 4 ชนิด ซึ่งจะทราบใน  2 เดือนนี้ ซึ่งต้องดูภาพรวมของสมดุลการผลิตของประเทศ สัญญาของคู่ค้า  รวมทั้งเรื่องกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายใหม่ ในเรื่องการลดการอุดหนุนเชื้อเพลิงชีวภาพในอนาคต 

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมแล้วอาจจะต้องมีผลทำให้โรงกลั่นต้องลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย โดยปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันพื้นฐานเบนซิน 95 ขณะที่น้ำมันพื้นฐานเบนซิน 91 หากยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันพื้นฐาน 91 ก็จะเหลือ และที่สำคัญกลุ่มมอเตอร์ไซค์นิยมใช้แก๊สโซฮอล์ 91 เป็นหลัก หากยกเลิกมอเตอร์ไซค์ก็จะได้รับผลกระทบ ดังนั้น จะยกเลิกกลุ่มเบนซินตัวใด ก็คงจะต้องพิจารณาเหตุผลที่เหมาะสม 


“ยอมรับว่าประเทศไทยมีชนิดน้ำมันจำนวนมาก เป็นภาระต้นทุนของผู้ประกอบการ ดังนั้น ต้องมาดูสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด โดยในส่วนของดีเซลนั้น หลังจากประกาศใช้บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ในส่วนของปั๊มทุกแห่งต้องมีขายบี 7 ส่วนหัวจ่ายที่เหลือต้องตัดสินใจเองว่าจะขายบี 7, น้ำมันพรีเมี่ยมและบี 20 อย่างไร” นางสาวนันธิกา กล่าว   

ส่วนการใช้น้ำมันภาพรวมในประเทศปีนี้คาดขยายตัวรวมร้อยละ 4 แม้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีปีนี้จะโตร้อยละ 3 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันต่ำทำให้รถใช้ก๊าซทั้งเอ็นจีวีและแอลพีจีหันมาใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยคาดกลุ่มเบนซินมีการใช้ 32.19 ล้านลิตรต่อวัน ขยายตัวร้อยละ 3.7 กลุ่มดีเซลคาดมียอดขาย 71.68 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงร้อยละ 3.9 น้ำมันอากาศยาน 20.48 ล้านลิตร ขยายตัวร้อยละ 6.7 การใช้แอลพีจี คาดอยู่ที่ 16.95 ล้านกิโลกรัมต่อวัน  ลดลงร้อยละ 5.1 การใช้เอ็นจีวี คาดอยู่ที่ 5.58 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงร้อยละ 8.5 


โดยรอบ 8 เดือนของปีนี้  (ม.ค. – ส.ค.) เติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยกลุ่มน้ำมันเบนซิน มียอดใช้ 32.12 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 กลุ่มดีเซล 64.92 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 น้ำมันอากาศยานเจทเอ 1 อยู่ที่ 19.30 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 และแอลพีจีเฉลี่ย 17.97ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ขณะที่เอ็นจีวีอยู่ที่ 5.5 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงร้อยละ 11.1 ขณะที่การนำเข้ารวมลดลง โดยน้ำมันดิบเฉลี่ย 916,000 บาร์เรล ลดลงร้อยละ 5 มีมูลค่านำเข้าน้ำมันดิบ 59,648 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,270 ล้านบาท ซึ่งการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น น้ำมันดิบลดลง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นทั้งตามแผนและนอกแผน.  -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ